ในประเทศสหรัฐอเมริการและยุโรป ได้มีการแสดงรหัสสถานะง่ายๆที่เรียกว่า 451 เพื่อแจ้งให้เรารู้ว่าเพจที่เราพยายามจะเข้านั้นถูกตัดการเชื่อมต่อโดยรัฐบาล

การค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตโดยมากจะมีโค้ดแสดงสถานอยู่หลายตัว ตั้งแต่เลข 100 ไปจนถึงเลข 500 เพื่อเป็นการแยกให้เราทราบเมื่อเกิดเหตุขัดข้อง ยกตัวอย่างเช่น เซิร์ฟเวอร์ล่ม คุณจะเห็นตัวเลขที่ดูคุ้นตา คือ 404 เป็นการบอกถึงสาเหตุของความขัดข้องในระบบอินเตอร์เน็ต โดยมีคำว่า “Page Not Found” เป็นคำอธิบายเสริมอีกที

แต่ก็ไม่ง่ายที่จะแยกแยะว่าเว็บที่ขัดข้องนั้นมีเป็นปัญหาด้านเทคนิคหรือมาจากการที่รัฐบาลตัดการเชื่อมต่อ นั่นคือสาเหตุที่โค้ด 451 ได้เข้ามามีบทบาท

เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม 2015 กลุ่มดูแลเกี่ยวกับมาตรฐานอินเตอร์เน็ต (Internet Engineering Steering Group) ได้ให้การรับรองว่า โค้ด HTTP ใหม่นี้ ช่วยจำแนกความแตกต่างระหว่างเว็บเพจที่ไม่สามารถทำงานได้ด้วยเหตุขัดข้องทางเทคนิค กับสาเหตุอื่นๆที่ไม่ใช่เหตุทางเทคนิค เช่น การถูกเซ็นเซอร์

อินเตอร์เน็ตเป็นเป้าหมายของการเซ็นเซอร์มานานแล้ว รัฐาลในยุโรปได้บังคับให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตกันไม่ให้ผู้ใช้เข้าเว็บจะลิงค์ไปหาเว็บเถื่อนต่างๆได้ ประเทศจีนมี Firewall ระดับสูงที่บล็อคแทบจะทุกอย่างในเว็บ รวมถึงประเทศรัสเซียด้วย และประเทศเกาหลีใต้ก็ขึ้นชื่อในด้านการแฮ็คเข้าไปดูข้อมูลที่โดนบล็อค

โค้ดแจ้งสถานะ 451 อ้างอิงมาจากนวนิยายคลาสสิคเรื่อง “Fahrenheit 451” ของ Ray Bradbury อันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับรัฐบาลที่ต้องการเผาทำลายหนังสือ ตอนนี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่อแสดงสถานะว่า “เว็บเพจไม่สามาถใช้งานได้เนื่องจากถูกเซ็นเซอร์”

ในขณะที่การเซ็นเซอร์เริ่มมีให้เห็นในเว็บไซต์ของทางสหรัฐอเมริการและยุโรป ก็ได้เกิดความเห็นต่างจากบางเว็บไซต์เว็บไซต์ที่ต้องการนำเสนอข้อมูลที่แตกต่างออกไป

คาดการณ์ว่า โค้ด 451 จะถูกใช้กับเซอร์ฟเวอร์เว็บอย่างเช่น Twitter, Facebook และ Google ในบางประเทศ แต่ก็มีความวิตกอยู่ว่าผู้ใช้จะเข้าไปดูข้อมูลที่ถูกบล็อคผ่านทางช่องทางอื่นแทน

ที่มา : cnet.com