FBI กล่าวโทษประเทศจีนว่า เป็นต้นเหตุการโจมตีทางไซเบอร์ในสหรัฐอเมริกามากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกรวมกัน

คริสโตเฟอร์ เรย์ (Chrostopher Wray) ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐ (FBI) กล่าวในการปราศรัยต่อต้านภัยคุกคามจากรัฐบาลจีนภายในสหรัฐว่า FBI ได้ดำเนินการสอบสวนการโจมตีทางไซเบอร์มากกว่า 2,000 เคสที่รัฐบาลจีนพยายามขโมยข้อมูลและเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา

“รัฐบาลจีนขโมยข้อมูลปริมาณมหาศาล ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ่งถึงขั้นทำลายอาชีพในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้เราจึงต้องรับมือการดำเนินการด้านข่าวกรองของพวกเขาประมาณทุก 12 ชั่วโมง” เรย์ กล่าว

FBI Director Christopher Wray (Photo courtesy of Reagan Library)

เรย์อ้างอิงการขโมยข้อมูลครั้งใหญ่บนเซิฟเวอร์ Microsoft Exchange ว่าส่งผลกระทบต่อบริษัทอเมริกันกว่า 10,000 แห่ง ทั้งยังพูดถึงการโจมตีอีกครั้งจากบริษัทที่มีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของว่า เป็นผู้ขโมยข้อมูลโค้ดของบริษัทกังหันลมในรัฐแมสซาชูเซต ทำให้มีพนักงานตกงานกว่า 600 คน

ย้อนกลับไปในปี 2015 ประธานาธิบดีบารัก โอบามา (Barack Obama) และประธานาบดีสี จิ้นผิง (习近平) ได้ลงนามในสนธิสัญญาความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยตกลงว่าทั้ง 2 ประเทศจะไม่กระทำหรือสนับสนุนการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อขโมยทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไรก็ตามกลับมีรายงานว่า จีนเพิกเฉยต่อสนธิสัญญาภายในเวลา 1 เดือนหลังจากนั้น ซึ่งเรย์อ้างว่า จีนได้เพิ่มจำนวนการโจมตีอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีหลังจากนั้น

อ้างอิง: Techspot

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส