iPhone 13 นั้นเริ่มวางขายในไทยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ซึ่งผ่านมาถึงตอนนี้ก็ 10 เดือนแล้ว ทีมงานแบไต๋ก็ใช้ iPhone 13 Pro มาตั้งแต่แรกจำหน่ายโดยไม่เคยติดฟิล์มกันรอยเลย และไม่ใส่เคสด้วย จนถึงตอนนี้สภาพเครื่องเป็นยังไง เราจะเล่าให้ฟังครับ

เราใช้ iPhone 13 Pro เครื่องนี้ในชีวิตประจำวันยังไงบ้าง เราใส่ในกระเป๋ากางเกงตลอดเวลาที่ออกไปข้างนอก ไม่ค่อยเอาไปใส่ในกระเป๋าถืออื่น ๆ ส่วนเวลาขับรถก็จะนำไอโฟนเครื่องนี้ไปเสียบแท่นติดกระจกเพื่อนำทาง และตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาไม่เคยทำเครื่องตกหล่นครับ

หน้าจอ Ceramic Shield

โดย iPhone 13 Pro นั้นใช้กระจกหน้าจอ Ceramic Shield หรือกระจกที่ทำให้แข็งแรงขึ้นด้วยกระบวนการ Ceramic ที่แอปเปิ้ลเคลมว่าทำให้หน้าจอทนทานมากขึ้น แต่ถามว่ามันแข็งจนใช้ในชีวิตประจำวันแล้วไม่มีรอยเลยไหม ปรากฎว่าเราได้รอยที่สังเกตเห็นได้มา 1 รอยบนหน้าจอครับ ซึ่งจะเห็นเมื่อปิดหน้าจอ โดยเป็นเส้นขีดแนวตั้งอยู่บริเวณกลาง ๆ จอ ส่วนถ้าเปิดจอจะมองไม่เห็นรอยนี้นะครับเพราะแสงสว่างกลบหมด ส่วนจุดอื่น ๆ ในหน้าจอไม่เห็นรอยที่ปรากฎชัดครับ

สรุปว่ากระจกหน้าจอ Ceramic Shield ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ iPhone 12 นั้นแข็งแกร่งจริง แต่ก็ไม่ใช่อมตะจนไม่เป็นรอยใด ๆ นะครับ

เฟรมเครื่องสแตนเลสสตีล

ต่อมาคือเฟรมรอบเครื่องที่เป็นสแตนเลสสตีลนะครับ ซึ่งเป็นวัสดุเฉพาะในไอโฟนรุ่นโปร ส่วนไอโฟนรุ่นปกติจะใช้เฟรมเครื่องเป็นอะลูมิเนียม

โดยรวมแล้วหลังจากใช้ไป 10 เดือน เฟรมสแตนเลสสตีลก็ยังเงางามสวยงามอยู่ดี ริ้วรอยมีน้อยมาก ๆ แม้ตอนแรกเราคิดว่ามันน่าจะเป็นรอยง่ายกว่านี้ด้วยความเงาของมัน ซึ่งรอยที่ชัดที่สุดอยู่ตรงมุมบนของเครื่องในฝั่งกล้อง ก็เป็นรอยขีดที่น่าจะเกิดจากการเก็บเครื่องในกระเป๋ากางเกงที่เราจะดันด้านกล้องลงกระเป๋าไปก่อน ทำให้เกิดรอยในบริเวณนี้

กล้องหลัง 3 เลนส์

แม้ว่ากล้องหลังของ iPhone 13 Pro นั้นจะปูดออกมามาก และเราก็ไม่ได้ใส่เคสป้องกัน หรือไม่ได้ใส่ครอบเลนส์ป้องกันอะไรเลย แต่ก็ไม่มีริ้วรอยใด ๆ บนเลนส์ทั้ง 3 เลย ถึงเราจะใช้งานโดยวางเครื่องให้เลนส์ทิ่มลงไปกับโต๊ะมาตลอด ก็ยังไม่มีรอยสักนิด ต้องยอมใจกระจก Sapphire ที่ครอบเลนส์ทั้ง 3 มาตั้งแต่แรกครับ แกร่งจนไม่ได้ซื้ออะไรมากันให้กล้องคุณภาพลดลงเลย (คือปกติกล้องไอโฟนก็จัดการแสง Flare แย่อยู่แล้ว ถ้าไปหากระจกอะไรมาครอบอีก แสงยิ่งสะท้อนในรูปไปกันใหญ่)

ฝาหลังกระจก

ฝาหลังกระจกของ iPhone 13 Pro นั้นไม่ใช่กระจกระดับ Ceramic Shield เหมือนจอหน้า แต่เป็นกระจกเสริมแกร่งแบบ Dual-Ion Exchange ที่ทนทานน้อยกว่า แต่ด้วยความที่ฝาหลังเป็นแบบพ่นทรายทำให้มองเห็นริ้วรอยได้ยากกว่าหน้าจอครับ เราจึงไม่เห็นรอยที่ (อาจจะ) เกิดขึ้นกับฝาหลังเลย ที่สำคัญเราชาร์จด้วยเครื่องแท่นชาร์จ MagSafe เป็นหลักทุกวัน ก็ยังไม่มีรอยใด ๆ บริเวณกลางเครื่องที่แม่เหล็กดูดนะ

พอร์ตเชื่อมต่อ

พอร์ต Lightning ที่อยู่บนเฟรมสแตนเลสสตีลด้านล่างเครื่องหลังจากใช้ผ่านมา 10 เดือน ก็ยังปกติดี ไม่มีรอยขีดข่วนครับ เพราะว่าเราชาร์จเครื่องด้วย MagSafe แบบไร้สายเป็นหลักด้วย ทำให้พอร์ต Lightning ใช้น้อยกว่าเครื่องทั่วไป จึงไม่ค่อยมีรอยรอบ ๆ พอร์ต

สรุป ควรติดฟิล์มใส่เคสให้ไอโฟนไหม

ให้คิดแบบนี้ครับ ถ้าเป็นเครื่องที่เราตั้งใจใช้คนเดียว ไม่ได้คิดไปขายต่อ หรือเป็นประเภทพอเปลี่ยนเครื่องก็ยกเครื่องเก่าให้คนรู้จักไป ไม่ได้เอาเข้าร้านให้โดนกดราคาเมื่อมีริ้วรอย

ถ้าคุณเป็นคนใช้งานประเภทนี้ ก็สบายใจได้ ไอโฟนนั้นแข็งแกร่งพอที่คุณจะไม่ต้องติดฟิล์มหรือใส่เคสเลยก็ได้ (ยกเว้นถ้ารู้ตัวว่าซุ่มซ่าม ชอบทำเครื่องตก อันนี้ก็ควรใส่เคสนะ)

ส่วนอุปกรณ์ที่คิดว่าไม่จำเป็นเลยคือกระจกป้องกันเลนส์กล้อง เพราะกล้องของไอโฟนแข็งแรงมากอยู่แล้ว ไม่ต้องใส่กระจกไปเพิ่มให้คุณภาพภาพถ่ายเราแย่ลงก็ได้ แถมกระจกป้องกันเลนส์นี้แหละที่จะแตกก่อนเลนส์จริงเสมอ โดนอะไรนิดหน่อยก็แตกไปก่อนแล้ว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส