Huawei ได้เน้นพัฒนาสมาร์ตโฟนที่มีประสิทธิภาพด้านการถ่ายภาพมาต่อเนื่องหลายปี และล่าสุด Honor แบรนด์ย่อยของ Huawei ได้เปิดตัวเรือธงรุ่นล่าสุด Honor 20 และ 20 Pro ที่มาพร้อมกล้องเลนส์ Macro อีกทั้งกล้องหลักของรุ่น Pro ยังมีรูรับแสงกว้างที่สุดของสมาร์ตโฟนในปัจจุบันนี้ด้วย

Honor 20 Pro

กล้องหลักของ Honor 20 Pro มีรูรับ f/1.4 ซึ่งกว้างที่สุดในสมาร์ตโฟนปัจจุบัน โดยทำให้ภาพสว่างขึ้น 60% เมื่อเทียบกับ f/1.8 อีกทั้งยังใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และระบบกันสั่นแบบ Optical และอิเล็กทรอนิก

นอกจากนี้ยังมีกล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูม 3x แบบ Optical และ 5x แบบ Hybrid (ซูมแบบดิจิทัลได้สูงสุดถึง 30x) พร้อมระบบกันสั่นแบบ Optical และถ่ายภาพวัตถุหรือภาพ Portrait ในที่แสงน้อยได้ดี

กล้องเลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีมุมกว้างถึง 117 องศา

และอีกสิ่งที่น่าสนใจคือกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งจะจับภาพในระยะห่าง 4 ซม. เท่านั้น

สำหรับกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล โดยได้รับการติดตั้งที่รูบนหน้าจอ โดยมีหน้าจอ LCD ขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด 1080p+, สัดส่วน 19.5:9, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วที่ด้านข้างตัวเครื่อง และรองรับฟีเจอร์ปลดล็อคด้วยใบหน้า

Honor 20 Pro ใช้ขุมพลังชิปเซ็ตระดับเรือธงอย่าง Kirin 980 ที่มีแผ่นกราไฟต์ลดความร้อนได้ดีมากขึ้น พร้อมเสริมด้วยแรมขนาด 8 GB, ความจุ 256 GB และแบตเตอรี 4,000 mAh รองรับ SuperCharge ระดับ 22.5 W ที่ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที

Honor 20 Pro จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ ในาคา 600 ยูโร (ประมาณ 21,400 บาท)

Honor 20

Honor 20 ยังคงมีกล้องหลักเซ็นเซอร์ Sony ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล แต่มีรูรับแสงแคบกว่าที่ f/1.8 และไม่มีระบบกันสั่นแบบ Optical อีกทั้งยังได้นำเซ็นเซอร์ตรวจจับความลึกของภาพมาแทนกล้องเลนส์ Telephoto ส่วนกล้อง Macro และ Ultra Wide Angle นั้น ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม

อีกสิ่งที่ยังคงเหมือนกับ Honor 20 Pro คือ หน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียด 1080p+ พร้อมกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ที่ได้รับการติดตั้งที่รูบนหน้าจอ และเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือก็อยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่องเช่นเดิม

ทางด้านสเปคสำคัญก็ได้รับการปรับลดลง ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตเรือธง Kirin 980 แต่ไม่มีแผ่นกราไฟต์ระบายความร้อน, แรม 6 GB, ความจุ 128 GB และแบตเตอรี 3,750 mAh

Honor 20 จะมีราคา 500 ยูโร (17,800 บาท) ส่วนที่สหราชอาณาจักรจะจำหน่ายในราคา 400 ปอนด์สเตอร์ลิง (16,300 บาท)

ข้อมูลอ้างอิง : gsmarena