สถานการณ์การค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังคงอึมครึมและไม่มีทีท่าว่าจะหาข้อยุติได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะจากทวีตล่าสุดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ออกมาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% มีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 กันยายนนี้ ซึ่งสาเหตุสำคัญนั้นทรัมป์อ้างว่ามาจากการเจรจาหาข้อตกลงกับรัฐบาลจีนที่เคยระบุว่าจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ จำนวนมาก รวมทั้งหยุดส่งออก เฟนทานิล ยาระงับปวดที่สกัดจากฝิ่นมา  แต่จนแล้วจนรอดดีลดังกล่าวก็ยังไม่เกิดขึ้น และที่น่าสนใจคือภาษีนำเข้าส่วนนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มสินค้าทั่วไป รวมทั้งสมาร์ตโฟนด้วย

เมื่อพูดถึงสมาร์ตโฟนนั้น iPhone รวมทั้งแท็บเล็ตอย่าง iPad เองทุกวันนี้มีวงจรที่ออกแบบในสหรัฐฯ ประกอบชิ้นส่วนในจีน และส่งกลับไปจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ ก็ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าจากจีนอยู่ก่อนแล้ว แต่ Apple เลือกที่จะแบกรับส่วนต่างจากภาษีนั้นเองโดยยอมได้กำไรต่อเครื่องน้อยลงแทนที่จะไปขึ้นราคา iPhone, iPad

แน่นอนว่าการประกาศขึ้นภาษีรอบใหม่ของทรัมป์นั้น กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก หากมองเฉพาะเรื่องของสองยักษ์ใหญ่แล้ว ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะซื้อสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ หรือประเทศอื่นมากขึ้น แต่ก็จะต้องจ่ายแพงกว่าเดิม ซึ่งหากใครต้องการจะซื้อ iPhone รุ่นใหม่ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้ซื้อ iPhone ในราคาที่แพงขึ้นราว 10%

*รายงานดังกล่าวอ้างอิงถึงผลกระทบดังกล่าวต่อกลุ่มผู้บริโภคในสหรัฐฯ เท่านั้น

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส