ได้มีการวิเคราะห์ถึงประเด็น “การขาดความสอดคล้องกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์” ของอุปกรณ์ iOS ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ “ผู้ใช้หมดความอดทน” กับปัญหาซอฟต์แวร์ของระบบ

Michael Hiltzik จาก L.A. Times ได้วิเคราะห์ว่า “Apple อาจจะต้องประสบปัญหาเดียวกันกับ Microsoft ที่มีต่อ Windows ซึ่งทั้ง 2 บริษัทกำลังเพิ่มฟังชั่นใหม่ให้กับซอฟต์แวร์หลักเดิมที่ควรหมดอายุการทำงานไปแล้ว แทนที่จะโละทิ้งไป”

image

หลายฝ่ายมองสาเหตุของปัญหาไปที่ตารางการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ของ Apple ที่จะมีการออกแบบและสร้าง iPhone รุ่นใหม่ทุกปี แม้แต่รุ่น S ยังมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน และกลายเป็นแผนการตลาดที่ได้ผลสำหรับ iPhone ในหลายปีที่ผ่านมา โดยในปี 2014 ในไตรมาสช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ทำยอดขายไปถึง 74.5 ล้านเครื่อง และ 74.8 ล้านเครื่อง ในปี 2015 แต่ในไตรมาสล่าสุดกลับไม่ทำเงินไว้อย่างที่คาด แม้แต่ Tim Cook ซีอึโอของ Apple ยังมองออกว่าผลเปรียบเทียบต่อปีต่อไตรมาสจะไม่เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้แน่เมื่อถึงเดือนเมษายน

แล้วอีก 2 ไตรมาสในอนาคตจะเป็นอย่างไร ?

image

หากพิจารณาไปอีกว่า ผู้ใช่ iPhone อีกกว่า 30% ยังใช้โทรศัพท์จอ 4 นิ้วอยู่ ก็อาจจะส่งผลต่อยอดขายในไตรมาสต่อไปด้วยเช่นกัน (ต้องรอลุ้น iPhone 5SE อีกที) และอย่าลืมยังอีกอีกนานกว่าจะถึงเดือนกันยายนที่จะเปิดตัว iPhone 7

การที่ซอฟต์แวร์ของ Apple เริ่มมีปัญหานั้นเป็นสัญญาณบอกว่า ในวันนี้ Apple ให้ความสำคัญในด้านการตลาดมากที่สุด

ถ้าหากการวิเคราะห์นี้ถูกต้อง Apple ไม่ควรมุ่งเพียงพัฒนาแค่ฮาร์ดแวร์ ควรที่จะให้ความสำคัญกับ iOS ให้มากกว่าเดิม เพราะนั่นคือสิ่งที่จะทำให้สามารถใช้ iPhone ไปได้อีกยาวนานเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา

ที่มา : Phonearena