Apple แยกสีของกล่องข้อความระหว่างการส่งข้อความไปหาผู้ใช้งาน iMessages และ Android เป็นสีน้ำเงินกับสีเขียว ส่งผลให้วัยรุ่นส่วนใหญ่เปลี่ยนจาก Android เป็น iPhone เพื่อให้ข้อความที่ส่งมาหาพวกเขาเป็นสีเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความกดดันในการเข้าสังคมกับกลุ่มเพื่อน

การใช้สีเขียวและสีน้ำเงินเพื่อแสดงว่าข้อความที่ส่งถึงผู้ใช้ผ่าน iMessage หรือผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ได้กลายเป็นเครื่องแสดงสถานะซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้เป็นเจ้าของ iPhone ทั้งยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ที่ผู้ใช้บนอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่สามารถทำได้

จากบทความของ Wall Street Journal วัยรุ่นและนักเรียนจำนวนมากอธิบายว่าสำหรับพวกเขาการไม่ใช้ iPhone ทำให้พวกเขาดูแปลกแยกและส่งผลเสียต่อพวกเขา

Adele Lowitz นักศึกษาจากรัฐมิชิแกน บอกกับสื่อของ Wall Street Journal ว่าเธอสังเกตเห็นความแตกต่างได้ทันทีเมื่อทดลองใช้อุปกรณ์ Android เพื่อนของเธอส่งข้อความถามสมาชิกในกลุ่มว่า “ใครเป็นสีเขียว” นอกจากนี้เธอยังพบว่าการแช็ตเป็นกลุ่มทำงานไม่ราบรื่นเหมือนเมื่อตอนเธอใช้ iPhone รวมทั้งปัญหาการโทรแบบ FaceTime และแอปที่ใช้ค้นหาเพื่อน

เธอยังกล่าวอีกว่า ในกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่มหาวิทยาลัยและที่กำลังจะย้ายเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ iPhone และใช้ฟีเจอร์เฉพาะของ iPhone เป็นจำนวนมาก Apple สร้างโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้เธอรู้สึกว่ามีแรงกดดันบางอย่างให้ต้องเปลี่ยนไปใช้ iPhone

เธอมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ Android เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานวิจัยของเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับมาใช้ iPhone ทันที เพราะเธอต้องปรับตัวอย่างมากในการเปลี่ยนไปใช้ Android หลังจากเธอกลับมาใช้ iPhone เพื่อนของเธอก็พิมพ์มาทันทีีว่า “กลับมาเป็นสีฟ้าแล้ว”

Miles Franklin นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา บอกว่าเขาพลาดการแข่งขันเมื่อตอนมัธยมปลายไปครั้งหนึ่ง เพราะเป็นแฟน Android ตัวยง ในขณะที่เพื่อนๆ ของเค้าใช้ iPhone ทำให้เค้าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการแข่ง จนในปี 2020 เขาย้ายไปใช้ iPhone ด้วยเหตุผลนั้นและส่วนหนึ่งเป็นเพราะชอบถ่ายวิดีโอลงใน TikTok

Jocelyn Maher นักศึกษาปริญญาโทจากนิวยอร์กกล่าวว่าเธอถูกเพื่อนและน้องสาวของเธอล้อเลียนเมื่อได้เห็นว่าคู่เดตของเธอใช้ Android และมีกล่องข้อความเป็นสีเขียว น้องสาวของเธอถึงกับพูดว่า “อี๋ นั่นมันแย่มาก”

Grace Fang จากมหาวิทยาลัย Wellesley ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ยังสังเกตเห็นถึงความแตกต่างทางสถานะสังคมระหว่างกลุ่มผู้ใช้งาน iOS และ Android โดยที่ผู้ใช้ Android นั้นจะออกมาขอโทษสำหรับอุปกรณ์ของตนที่ไม่มี iMessage

เธอพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของ Apple หรือมันเป็นสงครามของคนในเผ่ากับคนนอกเผ่า แต่ดูเหมือนว่าผู้คนจะไม่ค่อยชอบกล่องข้อความสีเขียวกันสักเท่าไหร่ จนเกิดปฏิกิริยาด้านลบกับมันขนาดนี้”

ที่มาภาพ https://arstechnica.com/gadgets/2021/09/injunction-apple-must-open-up-app-store-payments-in-90-days/

Apple ตระหนักดีว่า iMessage เป็นจุดดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก จากการเผชิญหน้ากันระหว่าง Epic และ Apple หลักฐานข้อพิพาทที่ปรากฏในชั้นศาล แสดงให้เห็นถึงการจำกัดผู้ใช้งานให้อยู่ใน Ecosystem ของตน Epic ยังชี้ถึงคำแถลงของผู้บริหารระดับสูงของ Apple ว่าบริษัทได้ขัดขวางการสร้าง iMessage ในเวอร์ชัน Android ด้วย

ในขณะที่ Apple แก้ต่างข่าวลือเกี่ยวกับ iMessage ที่จะลง Android ในช่วงกลางปี ​​2016 และยังคงเรียกร้องสิทธิ์ของ Apple และในปีเดียวกันนั้นมีการสร้างตัวทดลองสำหรับลูกค้าโดยใช้ “Material Design” ของ Google

และในปี 2018 Scott Forstall อดีตหัวหน้าฝ่ายพัฒนา iOS ได้พยายามผลักดันให้ใช้มาตรฐานการส่งข้อความที่แชร์ฟีเจอร์กับ iMessage แต่ก็ยังคงไม่คืบหน้าสักเท่าไหร่

ทางด้าน Hiroshi Lockheimer ผู้บริหารของกูเกิ้ลก็ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้อย่างเผ็ดร้อนว่า เราไม่ได้เรียกร้องให้แอปเปิ้ลสร้าง iMessage สำหรับ Android แต่เรียกร้องให้แอปเปิ้ลรองรับมาตรฐานการส่งข้อความยุคใหม่อย่าง RCS (Rich Communication Services) ใน iMessage สักที แทนที่จะรองรับแค่ SMS/MMS แล้วข้ามไป iMessage เลย ซึ่งจะทำให้การส่งข้อความระหว่าง 2 แพลตฟอร์มทำได้ดีขึ้น

อ้างอิง : Wall Street Journal , Apple Insider

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส