realme (เรียลมี) ประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปรุ่นล่าสุด realme GT3 รอบปฐมทัศน์ครั้งแรกของโลกในงาน Mobile World Congress 2023 ณ กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ชูไฮไลต์สมาร์ตโฟนชาร์จเร็ว 240W โดยยังเป็นการชาร์จเร็วที่สุดของโลกสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน

realme_GT3_MWC_1.jpg
Chase Xu รองประธานบริษัท realme และประธานกรรมการบริหาร realme Global Marketing

240W: มาตรฐานการชาร์จขั้นสูงสุดของโลก

ด้วยการชาร์จที่พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสกับความเร็วแรง 240W ทำให้ realme GT3 ไม่เพียงมอบประสิทธิภาพการชาร์จที่รวดเร็วที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเท่านั้น แต่เทคโนโลยีนี้จะยังล้ำหน้าไปอีกหลายปี เพราะนี่คือกำลังไฟสูงสุดที่สาย USB-C จะสามารถรองรับได้

ในแง่ของประสบการณ์ผู้ใช้งาน การชาร์จเร็ว 240W คือคำตอบสุดท้ายที่จะขจัดความกังวลในการใช้งานสมาร์ตโฟนให้หมดไป เพราะสามารถชาร์จไฟจนใช้งานได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยสามารถชาร์จ realme GT3 ซึ่งใช้แบตเตอรี่ความจุ 4600mAh จาก 0-20% ในเวลาเพียง 80 วินาที และใช้เวลาเพียง 9 นาที 30 วินาที ในการชาร์จเต็ม 100%

นวัตกรรมแบตเตอรี่ขั้นสูงและการชาร์จไฟเร็วแรงเต็มสปีด

ในฐานะสมาร์ตโฟนแบรนด์แรกที่นำเสนอเทคโนโลยีการชาร์จ 240W แก่ผู้บริโภคทั่วไปได้ ทำให้ realme เชื่อมั่นทั้งในด้านความล้ำหน้าของนวัตกรรม ความปลอดภัยในการชาร์จ รวมถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่และการรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น

  • นำเสนอ 3 เทคโนโลยีการชาร์จสุดล้ำครั้งแรกในอุตสาหกรรม เริ่มจากส่วนของโครงสร้าง realme GT3 ใช้ชิปเซ็ตการชาร์จไฟระดับสูงสุดถึง 3 ตัวเพื่อให้ชาร์จไฟได้พร้อมกัน จึงเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังไฟในการชาร์จได้สูงถึง 98.5% นอกจากนี้ realme GT3 ยังมาพร้อมสายชาร์จ 12A ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งรองรับกระแสไฟได้สูงสุดในอุตสาหกรรมเพื่อการประจุไฟที่เร็วเต็มสปีด และสุดท้าย realme ยังนำเสนอเทคโนโลยีการชาร์จแบบ Dual GaN โดยติดตั้งชิปเซ็ต GaN แบบเต็มวงจรทั้งในตัวสมาร์ตโฟนและหัวชาร์จ ส่งผลให้หัวชาร์จ 240W มีขนาดเล็กกระทัดรัดกว่าหัวชาร์จ 150W อย่างชัดเจน แม้จะให้กำลังไฟสูงกว่าถึง 60% ก็ตาม
  • ความปลอดภัยในการชาร์จไฟระดับสูงสุด หนึ่งในความท้าทายที่ยากที่สุดของการพัฒนาระบบชาร์จกำลังไฟสูงก็คือการควบคุมความร้อน realme GT3 จึงติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบ 6580mm2-large VC Liquid Cooling System ซึ่งคลุมส่วนแบตเตอรี่ถึง 61.5% จึงช่วยในการกระจายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม และเพื่อรับประกันถึงความปลอดภัยระดับสูงสุด realme GT3 ยังมีดีไซน์ป้องกันไฟไหม้แบบ PS3 การติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน 13 จุด และการเคลือบชั้นปกป้องมากถึง 60 เลเยอร์ ทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV Rheinland ว่าระบบการชาร์จเร็วของ realme GT3 มีความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ชาร์จไฟตั้งแต่ 200W ขึ้นไปรุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานขั้นสูงนี้
  • ขจัดความกังวลเรื่องอายุแบตเตอรี่ realme GT3 ผ่านการทดสอบในห้องแล็บของบริษัทว่าสามารถรักษาประสิทธิภาพแบตเตอรี่ได้ถึง 80% แม้จะผ่านการชาร์จ 240W ไปแล้วถึง 1,600 รอบ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนทั่วไปซึ่งสามารถรักษาประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ 80% ได้ที่การชาร์จไฟเพียง 800 รอบเท่านั้น นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบการชาร์จไฟอัจฉริยะซึ่งคอยตรวจสถานะการใช้งานและสลับสถานะการชาร์จไฟให้เป็น Travel Mode, Sleep Mode, หรือ In-Car Mode ตามความเหมาะสม ซึ่งไม่เพียงชาญฉลาดในการปรับประจุไฟ แต่ยังช่วยถนอมอายุแบตเตอรี่และหลีกเลี่ยงการชาร์จไฟเกินได้อย่างยอดเยี่ยม

Pulse Interface Design: ปฏิวัติประสบการณ์สมาร์ตโฟนสุดโฉบเฉี่ยว

นอกจากเทคโนโลยีการชาร์จไฟ 240W ที่พร้อมให้สัมผัสแล้ว realme GT3 ยังยกระดับมาตรฐานการออกแบบสมาร์ตโฟนไปอีกขั้น โดยออกแบบให้มีช่องกระจกที่บริเวณด้านข้างของโมดุลกล้องเพื่อโชว์การตกแต่งแผงชิปเซ็ตที่สวยงาม รวมถึงชิปเซ็ตของฟีเจอร์ NFC และระบบไฟ Pulse Interface System รูปแบบใหม่ซึ่งตกแต่งด้วยดวงไฟ C-shaped RGB เพื่อสร้างเอ็ฟเฟ็กต์สุดตระการตาในระหว่างการใช้งาน

ด้วยแรงบันดาลใจจากสมาร์ตโฟนสายเกมมิ่ง ระบบไฟ Pulse Interface System ของ realme GT3 จึงถูกออกแบบให้มีเอ็ฟเฟ็กต์แสงสีที่สวยงามหลากรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสถานะการใช้งานของมือถือ ตัวอย่างเช่น เมื่อชาร์จไฟสมาร์ตโฟนถึง 20% จะแสดงไฟกระพริบสีแดงแบบ Breathing Light Effect เมื่อชาร์จได้ 21%-100% ก็จะเปลี่ยนเป็นไฟกระพริบสีม่วง และชาร์จเต็มก็จะติดเป็นไฟสีม่วงตลอดเวลา โดยเมื่อมีสายเรียกเข้า ก็จะมีไฟกระพริบวาบในจังหวะเร็ว หรือเมื่อมีการแจ้งเตือน ระบบก็จะส่องแสงไฟสีขาว ไปจนถึงในฟีเจอร์การถ่ายภาพ หากเราตั้งค่านับถอยหลัง 10 วินาทีก่อนลั่นชัตเตอร์ ไฟจะส่องเป็นแสงสีฟ้า ขาว และส้ม

ระบบไฟ Pulse Interface System ยังสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งานกับสมาร์ตโฟนได้มากขึ้น โดยไปที่เมนู Go to settings > wallpaper & design > breathing light ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกสีของไฟได้ถึง 25 สี จังหวะกระพริบ 2 แบบ และความเร็วของจังหวะการกระพริบ 5 ระดับ เพื่อให้ตรงกับสไตล์การใช้งานของแต่ละบุคคล

จากแบรนด์ยอดนิยมของคนหนุ่มสาวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมตัวจริง

แบรนด์ realme มีชื่อเสียงจากการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแก่ผู้ใช้งานวัยหนุ่มสาว รวมไปถึงเทคโนโลยีการชาร์จเร็วสูงสุดในครั้งนี้ด้วย โดยนับตั้งแต่รุ่น realme X7 ซึ่งทำให้ realme เป็นสมาร์ตโฟนแบรนด์แรกที่มอบการชาร์จเร็ว 65W ในตลาดมือถือระดับกลางของปี 2563 และมาถึงรุ่น realme GT Neo3 ก็ได้นำเสนอระบบการชาร์จที่เร็วที่สุดในโลกของปี 2565 ด้วยกำลังไฟ 150W และมาในวันนี้กับ realme GT3 ซึ่งได้สร้างมาตรฐานใหม่ของวงการ ด้วยการเป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็วเต็มสปีดสูงสุดที่ 240W ซึ่งเห็นได้ว่า realme ได้พัฒนาจากผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อคนหมู่มาก มาสู่ผู้ทำลายขีดจำกัดของอุตสาหกรรมได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

นอกจากการแสวงหาความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่ไม่หยุดยั้ง realme ยังพยายามนำเสนอประสิทธิภาพการชาร์จเร็วแก่ผู้บริโภคในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ โดยทาง Counterpoint จัดอันดับให้ realme เป็นอันดับแรกในการเจาะตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ชาร์จเร็วในช่วงราคากลางถึงสูง (250-399 ดอลลาร์) realme ยังประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดระบบชาร์จเร็วสูงถึง 85% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ราคาต่ำกว่า 250 ดอลลาร์ โดย realme ตั้งใจที่จะทำให้การชาร์จเร็วเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น โดยการประกาศระหว่างการเปิดตัวทั่วโลกครั้งนี้ว่า 90% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ realme ที่วางจำหน่ายในตลาดสากล จะมีระบบชาร์จเร็ว 33W หรือสูงกว่านั้น

realme GT3 นำเสนอทั้งรุ่น 8+128GB, 12+256GB, 16+256GB, 16+512GB และรุ่นพิเศษ 16+1TB โดยวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 649 ดอลลาร์

ติดตามข่าวสารและอัปเดตโปรโมชันล่าสุดของแบรนด์เรียลมีได้ทางเฟซบุ๊ก realme Official Fan Page หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการได้ที่เว็บไซต์ realme https://www.realme.com/