หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ผู้นำเทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟนที่ครองใจผู้ใช้ทั่วประเทศ  จับมือ ลาซาด้า” (Lazada) และ ช้อปปี้” (Shopee) ผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซ ตั้ง ‘HUAWEI Official Online Store’  เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของหัวเว่ยบนช่องทางออนไลน์ เดินหน้าขยายช่องทางจัดจำหน่ายเปิดเกมรุกตลาดอีคอมเมิร์ซไตรมาสแรก  รวมถึงการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการในช่วงก่อนการตัดสินใจซื้อเพื่อขยายโอกาสทางการตลาดให้สินค้าของหัวเว่ยเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า

HUAWEI Official Online Store พร้อมให้บริการบนเว็บไซต์ของ Lazada ตามลิ้งค์ https://www.lazada.co.th/huawei แล้วตั้งแต่วันนี้  

และจะพร้อมให้บริการบนเว็บไซต์ Shopee ตามลิ้งค์ https://shopee.co.th/huawei_official_shop ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

Play video

นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมาหัวเว่ยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวมาจาก ปัจจัยหลักที่เกี่ยวพันกับแบรนด์คือ

  • 1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค 
  • 2. การจับมือกับพันธมิตรระดับโลกส่งผลให้แบรนด์ได้รับความน่าเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้ใช้ 
  • 3. การยกระดับบริการหลังการขายระดับพรีเมียมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อาทิ บริการ Door to Door Service และ Diamond Service ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าหัวเว่ยเป็นอย่างมากในเรื่องของความสะดวกสบายหลังการขาย  
  • 4. การสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และ 
  • 5. การขยายช่องทางจัดจำหน่าย

โดยสิ้นปีที่ผ่านมาหัวเว่ยมีร้านตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี2016 ทำให้ตอนนี้หัวเว่ยมีร้านค้าจำหน่ายครอบคลุมกว่า 9,000 แห่ง และมีหัวเว่ยแบรนด์ช้อปกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ  และอีกหนึ่งปัจจัยภายนอกที่เอื้อให้หัวเว่ยเติบโตอย่างรวดเร็วคือ การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีส่งผลต่อพฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสารและการซื้อสินค้าของผู้บริโภคมากที่สุด ผู้บริโภคมองหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการเฉพาะตัวได้มากขึ้น  ด้วยจุดแข็งของหัวเว่ยที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังจะเห็นได้จากการมีศูนย์พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ทั่วทุกมุมโลกกว่า 15 แห่ง และศูนย์วิจัยร่วมกว่า36 แห่ง ทำให้หัวเว่ยสามารถก้าวมายืนเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ครองใจผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่นาน”

ในปีนี้ หัวเว่ย ยังคงรุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหัวเว่ยเล็งเห็นว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) ประเมินตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยในปีที่ผ่านมาจะมีมูลค่าประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 9.8% และคาดการณ์ว่าในปี 2018 นี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซจะขยายตัวมีมูลค่าประมาณ ล้านล้านบาท ดังนั้นปีนี้หัวเว่ยจึงก้าวเข้ามาบุกตลาดอิคอมเมิร์ซอย่างเป็นทางการ 

โดยก้าวสำคัญของการบุกตลาดอีคอมเมิร์ซครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าหัวเว่ยช็อปปิ้งที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้  โดยเน้นหนักไปที่การบริหารและสร้างประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งทั้งออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันให้เป็นไปอย่างราบรื่นไม่สะดุด เช่น ลูกค้าเข้าไปดูของที่แบรนด์ช็อปหรือตัวแทนจำหน่าย  กลับบ้านมาสามารถตัดสินใจซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย หรือดูของผ่านร้านค้าออนไลน์  แล้วเดินเข้าไปในร้านตัวแทนจำหน่ายออฟไลน์แล้วตัดสินใจซื้อได้ทันที    ทำให้ร้านค้าแบบอีคอมเมิร์ซและหน้าร้านมีส่วนส่งเสริมซึ่งกันและกัน    โดยกลยุทธ์นี้เป็นผลพวงมาจากการเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป   ซึ่งหัวเว่ยให้ความสำคัญกับความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าเป็นอย่างมาก เพื่อเป้าหมายหลักในการสร้างความพึงพอใจและเพิ่มโอกาสในการขาย  ดังนั้นในปีนี้เราจึงเห็นการจับมือกันระหว่างหัวเว่ยและ พาร์ทเนอร์ผู้นำการช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง ลาซาด้า’ (Lazada) และ ช้อปปี้’ (Shopee) โดย หัวเว่ย จะตั้งร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ HUAWEI Official Online Store บนเว็บไซต์ของ ลาซาด้า’ (Lazada) และ ช้อปปี้’ (Shopee)