กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า ได้เผยถึงผลประกอบการที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อเดือนก่อนที่งานประชุมประจำปีของกลุ่มบริษัท (Annual General Meeting. Group) ในปี 2560 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12.4 เป็นเงิน 35.6 พันล้านยูโร ส่วนผู้ถือหุ้นก็มีเงินปันผลเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60 และจากความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้ในปี 2561 กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่ามุ่งมั่นที่ขยายการเติบโตขึ้นในประเทศไทยและภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยการนำเสนอบริการและเส้นทางบินใหม่ล่าสุด พร้อมการบริการที่เข้าสู่ระบบดิจิทัล

หลังจากที่ได้ทำการเปิดตัว แบรนด์ลุฟท์ฮันซ่าโฉมใหม่อีกครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่ายังคงดำเนินธุรกิจเพื่อสานต่อการเดินหน้าเข้าสู่ความทันสมัยด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ส่วน คือ

  1. ส่วนแรกคือเครือข่ายสายการบินพรีเมียมของกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า
  2. ส่วนที่สองคือธุรกิจของกลุ่มยูโรวิงส์
  3. และส่วนที่สามคือการให้บริการด้านการบินต่างๆ

โดยทางกลุ่มบริษัทฯ จะสานต่อด้านการลงทุนในทั้งในการพัฒนาคุณภาพและการเข้าสู่ยุคดิจิทัลโดยมุ่งเน้นไปการประหยัดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพ

สายการบินในกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า ประกอบด้วย

  • สายการบินลุฟท์ฮันซ่า
  • สายการบินสวิส
  • สายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ส
  • และสายการบินยูโรวิงส์

ปัจจุบันให้บริการเที่ยวบิน 29 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จากประเทศไทยสู่ยุโรป และในช่วงฤดูหนาวจะให้บริการเที่ยวบินจากประเทศเวียดนามและประเทศไทยสู่ยุโรป จำนวน 31 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

นายสเตฟาน โมลนาร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สายการบินในกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นสายการบินสัญชาติยุโรป ที่อยู่ในระดับ 5 ดาวเพียงรายเดียว ก็คือ “การปฏิวัติตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะส่งมอบประสบการณ์ในการเดินทางที่พรีเมียมแก่ลูกค้าของเรา เราเข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าการนำเอาความต้องการของแต่ละบุคคลมารวมกับการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้เดินทางในปัจจุบัน จากแนวคิดดังกล่าว ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าเรามีโครงการที่น่าจับตามองร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งจะพร้อมให้สัมผัสได้ในไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า”

นายสเตฟาน โมลนาร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สายการบินในกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า

ยิ่งไปกว่านั้น สายการบินออสเตรียน ได้ทำการอัพเกรดเครื่องบินพิสัยไกลทั้ง 11 ลำด้วยชั้นโดยสารแบบประหยัดพรีเมียมในช่วงต้นปีนี้ โดยชั้นโดยสารแบบใหม่นี้พร้อมให้บริการบนเส้นทางบินระหว่าง กรุงเทพฯ สู่เวียนนา พร้อมเก้าอี้โดยสารที่มอบความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สามารถโหลดกระเป๋าได้ 2 ใบโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม และบริการอาหารชั้นเลิศระหว่างเที่ยวบิน โดยกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สายการบินออสเตรียนให้บริการบิน

  • นอกจากนี้ ลุฟท์ฮันซ่ายังนำเสนอ ดรีม คอลเลคชั่น (Dream Collection) ที่ออกแบบใหม่สำหรับเส้นทางบินขาเข้าและออกจากกรุงเทพฯ ที่นอกจากจะให้บริการปลอกหมอนแบบใหม่และผ้าห่มขนาดใหญ่ที่พร้อมให้ความอบอุ่น ดรีม คอลเลคชั่นยังมีผ้าปูรองที่นอนที่มอบความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจบนเที่ยวบินระยะไกลอีกด้วย ทั้งยังมีเสื้อใส่นอนจากแบรนด์ Van Laack ที่พร้อมมอบให้ระหว่างเที่ยวบินระยะไกลเพื่อความสบายมากยิ่งขึ้นในระหว่างการเดินทาง
  • พร้อมกันนี้กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่าจะมีการอัพเดทต่าง ๆ ในช่วงฤดูหนาวของปี 2561/2562 ของภูมิภาคนี้เช่นเดียวกัน โดยในช่วงฤดูร้อนนี้ ยูโรวิงส์ได้ทำการเปิดตัวเที่ยวบินระยะไกลบนเส้นทางบินจากมิวนิค สู่ กรุงเทพฯ เป็นจำนวน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สำหรับตารางบินในช่วงฤดูหนาว ยูโรวิงส์จะรวมการให้บริการเที่ยวบินระยะไกลโดยมุ่งเน้นที่เส้นทางบินจากดุซเซลดอร์ฟแทนเที่ยวบินขาออกนอกประเทศจากเมืองต่าง ๆ ในประเทศเยอรมันนี ด้วยการเปลี่ยนแปลงการให้บริการดังกล่าว ยูโรวิงส์จะให้บริการเส้นทางบินจากดุซเซลดอร์ฟ มายังกรุงเทพฯ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเป็นการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินร้อยละ 25 เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน

มัทธีอัส เบอร์การ์ต โฆษกสายการบินยูโรวิงส์

  • ตารางบินในช่วงฤดูหนาวของปีนี้ ลุฟท์ฮันซ่ายังคงมอบบริการการบินบนเส้นทางสู่กรุงเทพฯ  ด้วยเครื่องบินรุ่นหลักที่ใช้ปฏิบัติการบินอย่าง แอร์บัส เอ380-800 ซี่งมีทั้งหมด 4 ชั้นโดยสาร คือ
    • ชั้นเฟิร์สคลาส
    • ชั้นธุรกิจ
    • ชั้นประหยัดพรีเมี่ยม
    • และชั้นประหยัด
  • ที่รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 509 คน ระหว่างกรุงเทพฯ และเยอรมันนี นอกจากนี้ เอเดลไวส์แอร์สายการบินชั้นนำสัญชาติสวิสเพื่อการพักผ่อนและเป็นสายการบินในเครือของสวิสอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์ไลน์ ยังให้บริการเที่ยวบินใหม่ระหว่างซูริค สู่ โฮจิมินห์ ที่พร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นบริการเพิ่มเติมจากการให้บริการเดินระหว่างซูริค สู่ ภูเก็ต