ไพรซ์ซ่า เผยสถานการณ์ตลาดอีคอมเมิร์ซ พบรายการสินค้าข้ามพรมแดนโตขึ้น หลังอีคอมเมิร์ซต่างชาติบุกตลาด คาดว่าครึ่งปีหลังมาร์เก็ตเพลสจะมีการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น แนะนำผู้ประกอบการเร่งปรับตัว เพิ่มกลยุทธ์สร้างจุดขาย พร้อมผนึกพันธมิตรธนาคาร ต่อยอด Priceza Money อำนวยความสะดวกผู้ซื้อ

เป้าหมายหลักประเทศต่อไปของไพรซ์ซ่าที่จะให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คือประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2568 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศอินโดนีเซียจะสูงถึง 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.45 ล้านล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 50% ของมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในภูมิภาค

นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “Priceza” เครื่องมือค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคา (Shopping Search Engine)  เปิดเผยข้อมูลสถิติเชิงลึกของไพรซ์ซ่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ว่า “มีผู้เข้าเยี่ยมชมไพรซ์ซ่าผ่านทั้งเว็บไซต์และแอปฯกว่า 70 ล้านครั้ง ขณะนี้จำนวนสินค้าบนแพลทฟอร์มของไพรซ์ซ่าเติบโตขึ้น 28% จากจำนวน 28 ล้านชิ้น ในช่วงปี 2560 เป็นจำนวน 36 ล้านชิ้นในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่สำคัญ สาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนสินค้าเหล่านี้เติบโตขึ้น มาจากการเติบโตของกลุ่มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน หรือ Cross border ทำให้การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศทำได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันมีฐานข้อมูลสินค้าประเภทนี้บนแพลทฟอร์มไพรซ์ซ่า 17 ล้านชิ้น หรือคิดเป็น 47% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด

“ช่วงครึ่งปีหลังมาร์เก็ตเพลส จะยิ่งมีแนวโน้มแข่งขันกันดุเดือดขึ้น เพราะมาร์เก็ตเพลสรายใหญ่จากต่างชาติ เริ่มบุกตลาดหนักขึ้น ขณะเดียวกัน รายที่เคยพักการทำตลาดในไทยก็หวนคืนสู่ตลาดประเทศไทยอีกครั้ง ยังไม่แน่ว่าอาจมีการทำ Cross border เกิดขึ้นเพิ่มเติมหรือไม่ ดังนั้นผู้ประกอบการในธุรกิจอีคอมเมิร์ซจึงจำเป็นต้องปรับตัว เพื่อรองรับการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงการแข่งขันกับสินค้าข้ามพรมแดนจากต่างชาติ”

จากข้อมูลเชิงลึกของไพรซ์ซ่าครึ่งปีแรกพบว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เฉลี่ยอยู่ที่ 1,702 บาทต่อออเดอร์ ผ่านช่องทางเดสก์ท็อป Mobile Web และแอปพลิเคชัน และเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งมาร์เก็ตเพลส ร้านค้า และผู้บริโภคในยุคที่การแข่งขันสูงขึ้น ไพรซ์ซ่า จึงได้จับมือพันธมิตรธนาคารชั้นนำ นอกจากไพรซ์ซ่าจะช่วยในเรื่องการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าให้ได้ราคาดีที่สุดแล้ว ไพรซ์ซ่ายังช่วยเรื่องการให้ข้อมูลการชำระเงินผ่านการช้อปปิ้งออนไลน์ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกช่องทางการชำระเงินที่คุ้มค่าและได้สิทธิพิเศษสูงสุดด้วย

“ที่ผ่านมาเราได้เปิดตัวบริการ Priceza Money ให้บริการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ด้านการเงินและประกันภัย 3 ด้าน ได้แก่

  1. บริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ มากกว่า 1.6 ล้านแผนประกัน
  2. เปรียบเทียบบัตรเครดิต จากสถาบันการเงินชั้นนำมากกว่า 69 ใบ และ
  3. เปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล จากสถาบันการเงินชั้นนำ

เพราะเรามองเห็น Pain Point ของผู้คนหลายเรื่อง เช่น การทำประกันภัยรถยนต์ดั้งเดิมใช้เวลานาน และ 90% ของคนขับรถจะรู้สึกไม่สบายใจในการขับเมื่อประกันรถยนต์ขาด เราจึงมองหาแนวทางการพัฒนาแพลทฟอร์มของเราให้เชื่อมโยงกับโลก ฟินเทค เพื่อแก้ไข Pain Point ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง”