หนึ่งในการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัยคงหนีไม่พ้น ‘โยคะ’ เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและเกิดความยืดหยุ่นแล้ว การเล่นโยคะยังช่วยฝึกสมาธิ เชื่อมโยงการหายใจกับการเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่าเมื่อความต้องการมากขึ้น ย่อมต้องมีการตอบสนองเมื่อครูโยคะกลายเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ร่างกายของพวกเขาต้องรับภาระหนักขึ้นเช่นเดียวกัน

Benoy Matthews นักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านสะโพกและหัวเข่าในสหรัฐเผยว่า ในปัจจุบันนี้มีครูสอนโยคะจำนวนมากมีปัญหาข้อสะโพกที่รุนแรง ซึ่งเกิดจากการใช้งานมากเกินไป ในเดือนเดือนหนึ่งมีครูโยคะ 4-5 คนมารับการรักษาด้วยปัญหาดังกล่าว ส่วนมากเป็นเพราะพวกเขาต้องทำท่าทางซ้ำ ๆ หลายครั้งต่อวันส่งผลให้ข้อต่อสะโพกรับภาระหนักจนเกิดอาการเจ็บป่วยในที่สุด บางคนที่มาพบอาจแก้ปัญหาได้โดยการปรับพฤติกรรม หรือลดระดับท่าโยคะลง แต่ในกรณีที่ร้ายแรงนั่นอาจทำให้พวกเขาต้องผ่าตัด และเปลี่ยนข้อสะโพกใหม่ทั้งหมด

เขากล่าวเสริมอีกว่า ผู้ที่ฝึกโยคะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะได้รับบาดเจ็บหรือเกิดปัญหาตามข้อ เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกเกร็งหรือติดขัดบริเวณขาหนีบให้หยุดเล่น คุณควรรู้ถึงขีดจำกัดของร่า’กายตนเอง ก่อนการบาดเจ็บจะเกิดขึ้น ร่างกายคนเราแตกต่างกัน การเคลื่อนไหวในท่าทางใดท่าทางหนึ่งคน ๆ หนึ่งอาจทำได้แต่อีกคนกลับทำไม่ได้ ผู้คนส่วนมากมักจะฝืนร่างกายเพื่อทำท่าทางให้ถูกต้อง มากกว่าที่จะสังเกตร่างกายตนเองซึ่งนั่นจะทำให้คุณได้รับบาดเจ็บได้

Matthews ยังแนะนำอีกว่า การป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บดังกล่าวคือการออกกำลังกายอย่างหลากหลายและไม่หักโหม ครูโยคะส่วนมากมักคิดว่า การเล่นโยคะ 6 วัน/สัปดาห์นั้น เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง เราควรออกกำลังกายแบบอื่นเพื่อสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายร่วมด้วย อย่างเช่น cardio เป็นต้น

เราไม่ปฏิเสธว่าโยคะ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีของการออกกำลังกาย แต่การจะออกกำลังกายในแต่ละครั้งเราควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย เพราะฉะนั้นอย่าฝืนร่างกายกันมากเกิดไปนะคะ

อ้างอิง BBC News

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส