บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้ตราสินค้า ‘เถ้าแก่น้อย’ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสาหร่าย ก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่กับการเดินทางของแบรนด์เถ้าแก่น้อย

เถ้าแก่น้อย แบรนด์สาหร่ายอันดับ 1 ของประเทศไทย กระจายสู่หลากหลายประเทศทั่วโลก ภายใต้การคัดสรรวัตถุดิบจากหนึ่งในแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุดของโลกจากประเทศเกาหลี ด้วยกระบวนการและมาตรฐานการผลิตระดับโลก พร้อมจัดจำหน่ายในช่องทางชั้นนำทั่วโลก ตอกย้ำกลยุทธ์ 3 Go ได้แก่ Go Firm, Go Board และ Go Global

นอกจากนี้ยังมีการดึง 3 แบรนด์แอมบาสเดอร์ ‘กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์’, ‘ซี พฤกษ์ พานิช’ และ ‘นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์’ ผู้นำเทรนด์ในกระแส สร้างการรับรู้สู่กลุ่มเป้าหมายและตลาดในระดับสากล พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 30 ล้านคน ในปี 2566

คุณอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จํากัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า ‘เถ้าแก่น้อย’ ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสาหร่ายมาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 กินพื้นที่ส่วนแบ่งทางการตลาดรวมสาหร่ายสูงถึง 65% ยังคงเป็นแบรนด์สาหร่ายอันดับ 1 ในทุกระดับที่ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน

พร้อมย้ำว่าทางแบรนด์มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากหนึ่งในแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุดของโลกจากประเทศเกาหลี ด้วยกระบวนการและมาตรฐานการผลิตระดับโลก BRC, GHP, HACCP, Halal MUI

ในปีนี้ เถ้าแก่น้อย ยังคงทำการตลาดในระดับสากล เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศ​ ทั้งออนไลน์และ​ออฟไลน์​ โดยแบ่งสัดส่วนธุรกิจในตลาดไทยไว้ที่ 40% และต่างประเทศ 60% พร้อมตอกย้ำกลยุทธ์ ‘Go Board’ คือการขยายฐานธุรกิจ สินค้า และตลาดในไทยให้กว้างและแข็งแกร่งขึ้น ทั้งการรุกตลาดสินค้ากลุ่มสาหร่ายอบที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ยึดตลาดกินรวบเป็นผู้นำในทุกระดับการขายสาหร่ายในประเทศไทย และการเตรียมขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งด้วยการทำเอง หรือการจับมือกับพันธมิตรขยายธุรกิจไปด้วยกัน เมื่อต้นปี เถ้าแก่น้อยจับมือแต่งตั้งพันธมิตรศูนย์กระจายสินค้า 14 ราย กระจายสินค้าให้ครอบคลุมช่องทางทั่วประเทศให้ลึกขึ้น

ควบคู่ไปกับ ‘Go Global’ คือการขยายตลาดในต่างประเทศ และการสร้างแบรนด์ให้เป็น Global Brand มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีการจัดจำหน่ายในช่องทางชั้นนำทั่วโลก อาทิ Hema, Ole, Walmart, 7-11, Costco, Wholefood จากภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยที่มีทิศทางการฟื้นตัวเร็ว ตลาดท่องเที่ยวไทยกับมาคึกคัก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยกันเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นสัญญาณทางธุรกิจที่ดี โดยเถ้าแก่น้อยมีแผนการขยายเถ้าแก่น้อยแลนด์ อาณาจักรสาหร่ายเถ้าแก่น้อย แบบ One Stop Shopping พร้อมกลับมาเปิดอย่างเป็นทางการที่แรกที่เอเชียทีค เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 30 ล้านคน ในปี 2566

ด้านกลยุทธ์ในการพัฒนาโปรดักต์ เถ้าแก่น้อยยังคงเน้นการสร้างสินค้าสาหร่ายใหม่ ๆ ทั้งในเรื่องรสชาติ และรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์และผลักดันตลาดให้เติบโตต่อเนื่องในฐานะเป็นผู้นำตลาด รวมถึงให้ความสำคัญกับเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable organization) บริษัทมีการดำเนินงานตามแผน esg (Environment, Social และ Governance) ทั้งวิชันและกลยุทธ์ในอนาคต การลดคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) ตั้งแต่เรื่องการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในโรงงานผลิตทั้งหมด เพื่อลดการใช้พลังงาน การจับมือร่วมกับ SCG Chemical ในการค้นคว้าวิจัยพัฒนาเรื่องการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมเรื่องการปลูกสาหร่ายในเกาหลี ที่จัดว่าเป็นพืชน้ำที่ดีต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม และช่วยเติมออกซิเจนให้กับน้ำได้เป็นอย่างดี เป็นต้น

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เถ้าแก่น้อยทำมาโดยตลอด นั่นคือ Idol Marketing สร้างการจดจำ และสร้างรับรู้ในวงกว้างผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ โดยเน้นการเป็น Trend Setter หรือ ผู้นำเทรนด์ให้อยู่ในกระแสเสมอ และ Trend Catcher คือการที่จับกระแสความนิยมของกลุ่มผู้บริโภคอยู่เสมอ พร้อมสร้างสรรค์กิจกรรม นำเสนอสิ่งที่สนุก เข้ากับกระแส และเทรนด์ของผู้บริโภค เพื่อให้แบรนด์ทันสมัยอยู่เสมอ ล่าสุดกับการรวมตัวของ 3 แบรนด์แอมบาสเดอร์ “กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ และ ซี พฤกษ์ พานิช – นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์” ซึ่งทั้ง 3 คน มีคาแรกเตอร์ที่เข้ากับแบรนด์ ทั้งในเรื่องภาพลักษณ์ ความเป็นที่นิยมต่อกลุ่มเป้าหมาย และความแปลกใหม่ สามารถเป็นตัวแทนแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม และทำงานร่วมกันได้อย่างสนุกสนาน พร้อมสร้างประสบการณ์และส่งมอบความสุขให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ

คุณอิทธิพัทธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับสาหร่าย ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าหลักของเถ้าแก่น้อย โดยปีนี้ในประเทศไทยแบ่งสัดส่วนสินค้าประเภทสาหร่ายไว้ที่ สาหร่ายทอด 55% สาหร่ายอบ 30% สาหร่ายย่าง 13% พร้อมผลักดันตลาดสาหร่ายอบให้โตต่อเนื่อง ยึดความเป็นผู้นำตลาดในทุกเซ็กเมนต์ สัดส่วนที่เหลือจะเป็นสาหร่ายอื่น ๆ นอกจากนี้ยังเตรียมแผนพัฒนาสินค้า และนวัตกรรมใหม่ที่จับเทรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำการทำการตลาดทั้งในไทย และต่างประเทศ ไปพร้อมกับประสบการณ์การดำเนินธุรกิจของเถ้าแก่น้อยมาตลอด 20 ปี พร้อมตั้งเป้าการเติบโตตลาดรวมสาหร่ายในประเทศไทยไว้ที่ 20% และภาพรวมธุรกิจเติบโตที่ 15%”

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

ผู้พัฒนา WinRAR เป็นเกียรติ ในที่สุด Windows 11 ก็จะรองรับ RAR

ไม่นานามานี้ Microsoft ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Windows 11 อัปเดตใหม่จะรองรับการใช้งานไฟล์ RAR อย่างเป็นทางการแบบ Native โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเสริมอะไรเพิ่มเติม ซึ่งผู้พัฒนา ...อ่านต่อ

พบผลทดสอบ OnePlus Nord N30 5G บน Geekbench มาพร้อมชิป Snapdragon 695

เมื่อเดือนที่แล้ว OnePlus ได้เปิดตัว OnePlus Nord CE 3 Lite ไป และหลังจากนั้นก็มีข่าวว่า Nord CE 3 Lite จะวางขายที่สหรัฐอเมริกาในชื่อ Nord N30 5G ...อ่านต่อ

เปิดตัว FUJINON XF 8mm F3.5 R WR เลนส์ Ultra-Wide ตัวจิ๋ว น้ำหนักแค่ 215 กรัม!!

พร้อมกันกับการเปิดตัวของกล้อง X-S20 ทาง FUJIFILM ยังได้เปิดตัว 'FUJINON XF 8mm F3.5 R WR' เลนส์ Ultra-Wide ตัวจิ๋ว สำหรับกล้องมิเรอร์เลส X-Series ในน้ำหนักตัวเพียงแค่ 215 ...อ่านต่อ