vivo X200 FE สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ในตระกูล X Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ครั้งนี้มากับดีไซน์กะทัดรัด แต่จัดประสิทธิภาพแบบเต็ม ๆ กับ MediaTek Dimensity 9300+ พร้อมระบบกล้องที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS บนแนวคิด ‘จับกระชับ ชัดทุกช็อต’ เน้นการใช้งานด้วยมือเดียวที่สะดวกสบาย

ดีไซน์และหน้าจอ
ในด้านการออกแบบ vivo X200 FE มาพร้อมตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด และหน้าจอแสดงผลแบบแบน (Flat Screen) ขนาด 6.31 นิ้ว เพื่อให้จับถือและใช้งานด้วยมือเดียวได้ง่ายขึ้น โดยมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีฟ้า (Blue Breeze), สีชมพู (Pink Vibe), สีเหลือง (Yellow Glow), และสีดำ (Black Luxe)
กล้อง ZEISS และ AI Image Studio

ส่วนกล้องของ vivo X200 FE ก็ยังคงเป็นกล้องที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS ทั้งกล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้อง Super Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่ดีไซน์มาใหม่ ใช้การสะท้อนแบบตัว M ทำให้มีความคมชัดในขณะที่มีขนาดเล็กลง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ ZEISS Multifocal Portrait ที่ให้ผู้ใช้เลือกถ่ายภาพบุคคลได้ 5 ระยะ และ Stage Mode สำหรับการถ่ายภาพในคอนเสิร์ต รวมถึงไฟ Aura Light ที่ช่วยปรับอุณหภูมิแสงในการถ่ายภาพบุคคลในที่แสงน้อย

ส่วนฟีเจอร์ด้าน AI กับการถ่ายภาพก็มี AI Image Studio ที่รวมเครื่องมือการปรับแต่งและแก้ไขภาพด้วยความสามารถของ AI หลากหลายตัว เช่น
- AI Magic Move: แก้ไของค์ประกอบภาพ
- AI Image Expander: ขยายและเติมรายละเอียดของภาพ
- AI Erase: ลบวัตถุหรือบุคคลที่ไม่ต้องการออกจากภาพ
- AI Four Season Portrait : เปลี่ยนภาพให้กลายเป็นฤดูกาลต่าง ๆ
สเปกภายในและฟีเจอร์อื่น ๆ

แม้จะเป็นรุ่นเล็ก มีขนาดตัวกะทัดรัด แต่ vivo X200 FE ก็ยังคงให้สเปกที่โหดเหมือนเดิมด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9300+ แบตเตอรี่อึด BlueVolt ความจุ 6500mAh รองรับชาร์จไว 90W FlashCharge
หน้าจอ ZEISS Master Color 1.5K AMOLED ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วนถึง 5000 nits พร้อมมาตรฐาน SGS Certification สำหรับการปล่อยแสงสีฟ้าต่ำ ส่วนตัวเครื่องก็ทนทานใช้ใช้อะลูมิเนียมอัลลอยด์เกรดเดียวกับอุตสาหกรรมการบิน และมีมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 และ IP69 ที่สามารถลงไปถ่ายภาพใต้น้ำได้
การวางจำหน่าย

vivo X200 FE เริ่มวางจำหน่ายแล้วในราคา 24,999 บาท พร้อมโปรโมชัน vivo Care และ X200FE Premium Gift มูลค่ารวมกว่า 13,098 บาท พร้อมส่วนลดเก่าแลกใหม่สูงสุด 5,000 บาท โดย เvivo X200 FE ปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ (3 กรกฎาคม 2568) ใครสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดียของ vivo ประเทศไทย