Soft Power หรือ อำนาจละมุน หมายถึงการโน้มน้าวใจ หรือ ทำให้เกิดความชื่นชอบด้วยการสร้างเสน่ห์บางอย่างให้หลงรักด้วยจุดเด่นในความแตกต่างทางวัฒนธรรม ซึ่งถูกใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าและความสนใจให้กับสินค้าผ่านวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ และถ้าจะพูดถึงตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในช่วงที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นประเทศเกาหลีใต้ จากซีรีส์ Squid Game ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ข้ามกลับมาที่ประเทศไทย คำว่า Soft Power เป็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก จากปรากฎการณ์ที่ มิลลิ แรปเปอร์สาวของบ้านเรา นำข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นไปกินสด ๆ บนเวทีระดับโลก อย่างเทศกาลดนตรีและศิลปะโคเชลลาแวลลีย์ (Coachella Valley Music and Arts Festival) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เมนูข้าวเหนียวมะม่วงโด่งดังไปทั่วประเทศและทั่วโลก เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล และนี่ยังไม่นับรวมกระแสลูกชิ้นยืนกินที่เป็นอาหารโปรดของ ลิซ่า สมาชิกคนไทยแห่งวง Blackpink ทำให้คนแห่ไปหากินกันอย่างล้นหลาม

Soft power 7 ประเภท

จากการสำรวจเรื่อง Soft Power ของ Brand Finance บริษัทด้านกลยุทธ์การประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำระดับโลกแบ่ง Soft Power ออกเป็น 7 ประเภท

  1. การบริหารและการปกครอง (Governance) เป็นการขยับของนโยบายภาครัฐที่ส่งผลชัดเจน เช่น บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีผิวสีคนแรก แสดงถึงความเท่าเทียม ไปจนถึงการเปิดเสรี สำหรับ LGBTQ+
  2. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (International Relations) ส่งต่อ Soft Power ผ่านทางการทูต เช่น ความร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ และ เยอรมนี ในการสนับสนุนวัคซีนโควิด19 ให้กับประเทศพันธมิตร รวมถึงการออกกฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของประเทศสวีเดน ที่ถูกพูดถึงในทุกเวทีด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก
  3. คุณภาพความเป็นอยู่ประชากร (People & Value) เช่นที่ประเทศแคนาดา ถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศน่าอยู่อันดับต้น ๆ ของโลกเพราะยอมรับความหลากหลาย ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ แต่เน้นความรู้ความสามารถของประชากร 
  4. การส่งต่อด้านมรดกและความมั่งคั่งทางวัฒนธรรม (Culture & Heritage) ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยว อาหาร หรือ กีฬา เช่น การท่องเที่ยวทะเลมัลดีฟ , สัมผัสความสวยงามของพีรามิดที่ประเทศอียิปต์ , พิซซ่า ซึ่งเป็นอาหารประจำชาติของอิตาลี่ แต่มีขายทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ ล่วนแล้วแต่ถูกส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ให้อยากทำตาม
  5. การศึกษาและวิทยาศาสตร์ (Education & Science) โดยหนึ่งในประเทศที่การศึกษาแข็งแกร่งที่สุดในโลก คือ อังกฤษ ซึ่งมีมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Oxford University) ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับไปทั่วโลก หรือข้ามไปที่ประเทศจีน ก็มีแบรนด์อย่าง Xiaomi ที่มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย
  6. ด้านธุรกิจและการค้า (Business & Trade) ตัวอย่างที่ชัดเจนคือประเทศจีน ที่มีกำลังการบริโภคสูง และเป็นแหล่งผลิตสินค้าหลายประเภท ทำให้นานาชาติ อยากมาเปิดตลาดจีนกันมากมาย หรือ กรณีที่ประเทศเยอรมนีขึ้นชื่อเรื่องการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกเป็นต้น
  7. สื่อและการสื่อสาร (Media & Communication) เข้าถึงผู้คนได้กว้างมากที่สุดและค่อนข้างมีอิทธิพลต่อความคิด มีการประกาศรางวัลต่าง ๆ อย่างบอยแบนด์วง BTS ก็ได้ใช้พื้นที่สื่อในการเผลแพร่ผลงาน หรือ การเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านการ์ตูนก็เช่นกัน 

คนไทยมองสหรัฐฯ มีอิทธิพลด้าน Soft Power มากที่สุดในโลก

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ จาก 1,000 ตัวอย่าง เป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นเพศชาย 30% เพศหญิง 65.7% และ LGBTQ+ 4.1% พบว่า คนไทยมองว่าประเทศสหรัฐอเมริกามีอิทธิพลกับโลกมากที่สุด รองลงมาคือจีน และ เกาหลีใต้ โดยมีปัจจัยหลักมาจากขนาดเศรษฐกิจ สื่อสารและบันเทิง และการเมือง

ในด้านการเปิดรับสื่อเพลงต่างประเทศ พบว่า คนไทยฟังเพลง หรือ ติดตามศิลปินจากประเทศสหรัฐอเมริกามากที่สุดเช่นกัน รองลงมาคือเกาหลีใต้ และอังกฤษ โดยเหตุผลหลักที่เลือกฟังเพลงคือแนวเพลงที่โดนใจ และต้องการฝึกภาษา รวมถึงติดตามศิลปินเพราะชื่นชอบความสามารถ

ในด้านการเปิดรับสื่อภาพยนต์และซีรีส์ คนไทยยังยกให้เกาหลีใต้ครองแชมป์เช่นเดิม รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา และจีน โดยเฉพาะกลุ่ม Gen X และ Gen Y มีพฤติกรรมอยากรับประทานอาหารตามรอยภาพยนต์และซีรีส์ ส่วน Gen Z และ Baby Boomer ต้องการเที่ยวตามรอยภาพยนต์และซีรีส์ 

ทั้งนี้ Soft Power ที่คนไทยต้องการนำเสนอให้ชางต่างชาติรับรู้มากที่สุดคือ อาหารและเครื่องดื่ม รองลงมาคือการบริการที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และ การเผยแพร่ศิลปะและวรรณกรรม โดยตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือละครบุพเพสันนิวาสที่สอดแทรกทั้งอาหาร และศิลปะวัฒนธรรมอยู่ในเนื้อเรื่อง รวมถึงการใส่รัดเกล้ายอดของ Lisa ในมิวสิกวิดีโอเพลง Lalisa จนกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก

3 มุมมอง Soft Power จากบุคลากร 3 วงการ

คุณปิง เกรียงไกร วชิรธรรมพร ผู้กำกับซีรีส์ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซัน 2-3 กล่าวว่า มันคือพลัง หรือ Power ที่ซึม ๆ เงียบ ๆ ไม่รู้ตัว เป็นการที่นำวัฒนธรรมที่มีอยู่จริง แสดงออกไปให้คนได้รับรู้ ไม่ใช่การเอาของไปวางขาย แต่เป็นการบอกกลุ่มเป้าหมายว่าเราเป็นอย่างไร เช่น การ์ตูนญี่ปุ่น ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากที่สุดสำหรับตน เพราะอ่านและดูการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งได้รับวัฒนธรรม ทั้งอาหาร และขนมต่าง ๆ เช่น ขนมแป้งทอด หรือ โดรายากิ รวมถึงอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะต้องการเห็นความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นว่าเป็นเหมือนที่ได้ดูในการ์ตูนหรือไม่ ส่วนในงานเขียนบทและกำกับการแสดงนั้น ในจุดเริ่มต้นเชื่อว่า ไม่มีใครคิดว่าจะเป็น Soft Power แต่ถ้าคอนเทนต์เราดี มันจะกลายเป็น Soft Power ด้วยตัวเอง

ด้านคุณบุ๋ม บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ YourNextU by SEAC ระบุว่า Soft Power มีความคล้ายกับการโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ที่ชักชวนให้ผู้คนทำอะไรบางอย่างโดยไม่ได้บังคับ แต่กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายอยากได้ อยากเป็นด้วยตัวเอง ส่วนตัวมีประสบการณ์ร่วมกับประเทศเกาหลีใต้ค่อนข้างมาก เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น การติดตามซีรีส์ แดจังกึม ทำให้รู้สึกอยากกินและทำอาหารเกาหลี และการติดตามวง Blackpink ทำให้เกิดแรงบันดาลใจหลาย ๆ อย่าง โดยการสร้าง Soft Power อาจหมายถึงการเล่าจนเกิดเป็น Content ที่เฉพาะตัว จากนั้นจะกลายเป็น Soft Power ที่ผู้คนมาชอบในสิ่งเราที่เป็น

ขณะที่คุณปราบ เลาหะโรจนพันธ์ Communication Director แคมเปญเลือกตั้งผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มองว่า Soft Power ของตนเกิดจากเกมที่เล่นสมัยเด็ก ทำให้สนใจวิทยาศาสตร์และคิมพิวเตอร์ การนำมาใช้งานจริงอาจเป็นการสร้างไอดอลในเชิงต่าง ๆ จะเป็นตัวผู้คน หรือ สิ่งของ ให้คนรู้สึกนับถือหรือศรัทธา อยากลองเป็น อยากลองกิน อยากลองสัมผัส การสร้าง Soft Power ต้องมีคุณภาพและต่อเนื่องจึงจะเกิดเป็นพลังขึ้นมาเอง โดยหลายแคมเปญในการหาเสียงของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ก็ได้ยืมพลัง Soft Pwer มาใช้ ทั้ง Squid Game การ์ตูนต่าง ๆ และที่หลายคนชื่นชอบ น่าจะเป็นการนำเสนอนโยบายทั้งหมดผ่านเพลงแรป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

Khaby Lame จากหนุ่มโรงงานตกงานไร้สัญชาติ สู่ดาว TikTok หน้าตาย ทำรายได้ 30 ล้านบาทต่อคลิป

เดือนมีนาคม 2020 ระหว่างที่โควิด-19 กำลังเริ่มระบาดอย่างหนัก ประชาชนทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับ “ชีวิตธรรมดาแบบใหม่” ที่ไม่แน่นอนและหลายคนต้องตกงานจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ...อ่านต่อ

ไม่ใช่แค่ Apple ทางการอินเดียสั่งปรับ Google ข้อหา Android ผูกขาดตลาด

สหภาพยุโรปเคยสั่งปรับ Google เป็นเงินจำนวน 4,300 ล้านเหรียญในปี 2018 ในข้อหา Android มีการผูกขาดตลาด ไม่ใช่เพียงยุโรปเท่านั้นที่มองแบบนี้ แม้แต่อินเดียก็สั่งปรับ Google ...อ่านต่อ

Android 13 กำลังจะรองรับการใช้งานบน Windows 11 ผ่าน WSA

นับตั้งแต่ Microsoft เปิดตัว Windows 11 ผู้ใช้งานก็สามารถติดตั้งแอปพลิเคชัน Android ได้จาก Amazon Appstore  และรันบนอุปกรณ์ Windows ได้ผ่าน Windows Subsystem for Android (WSA) ...อ่านต่อ

Dietrich Mateschitz เจ้าของร่วมเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull เสียชีวิตในวัย 78 ปี

ดีทริช เมเทสซิตซ์ (Dietrich Mateschitz) มหาเศรษฐีอันดับที่ 51 วัย 78 ปี ที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes ในปี 2022 ผู้ร่วมก่อตั้งเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull (กับ นายเฉลิม อยู่วิทยา ...อ่านต่อ

Play video
Video
feature

วิกฤตพลังงาน โอกาสการลงทุนในพลังงานสะอาด | beartai X BBLAM Funds for Fun EP.8

“วิกฤตขาดแคลนพลังงาน” ยังคงเป็นประเด็นใหญ่ของปีนี้ และคาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เริ่มต้นขึ้นในภูมิภาคยุโรปที่พยายามจะลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย ...อ่านต่อ