เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงจะได้ชมซีรีส์ ‘She-Hulk’ ที่ฉายทางช่อง ‘Disney+’ กันไปแล้วและคงจะได้ทราบเรื่องราวต่าง ๆ ของฮีโรหญิงพลังเขียวคนนี้ไปบางส่วนแล้ว ว่าเธอมีความเป็นมาอย่างไร กับเรื่องราวของ เจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส (Jennifer Walters) หญิงสาวธรรมดาที่ได้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร ซึ่งเรื่องราวของ ‘She-Hulk’ จะต่างกับเรื่องราวของฮีโรคนอื่น ๆ เพราะตัวของเจนนิเฟอร์นั้นต้องพยายามอยู่ร่วมและปรับตัวเองเพื่อให้อยู่ในสังคม พร้อมกับทำหน้าที่ทนายของเธอไปพร้อม ๆ กับการเป็นฮีโรจำเป็น ที่ทำให้เรื่องราวของ ‘She-Hulk’ คือตัวแทนของเพื่อนหญิงพลังหญิงของจริง และเพื่อเป็นการต้อนรับการมาของฮีโรพลังหญิง ‘She-Hulk’ เราเลยไปหาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวละครคนนี้ในมุมต่าง ๆ มานำเสนอ เพื่อให้คุณได้รู้จักตัวละครนี้มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวแปลงร่างแล้วมาดูเรื่องราวของ ‘She-Hulk’ ไปพร้อมกันเลย

ที่มาของ She-Hulk เกิดจากความกลัวของ Marvel Comics

She-Hulk

เริ่มต้นเรื่องแรกกับจุดกำเนิดของฮีโรสาวพลังเขียวอย่าง ‘She-Hulk’ ที่จุดกำเนิดในการสร้างตัวการ์ตูนตัวนี้เรียกว่าแปลกและน่าสนใจมาก ๆ เพราะการกำเนิด ‘She-Hulk’ นั้นไม่ได้เกิดมาจากการอยากตีตลาดของตัวละครฮีโรที่เป็นผู้หญิง หรือต้องการสนับสนุนเพื่อนหญิงพลังหญิงที่กำลังโด่งดังในช่วง 80s แต่อย่างใด แต่การสร้างตัวละคร ‘She-Hulk’ นั้นเกิดมาจากความกลัวของ ‘Marvel Comics’ ในตอนนั้น ที่กลัวว่าตัวเองอาจจะเสียสิทธิ์ในการสร้างตัวละครขึ้นมาถ้าเขาไม่รีบสร้างตัวละครนี้ขึ้นมาก่อน ที่ต้องย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ ปี 1977 ถึง 1982 เรื่องราวของยักษ์เขียว ‘The Incredible Hulk’ และละครโทรทัศน์เรื่อง ‘The Bionic Woman’ กำลังโด่งดังเป็นอย่างมาก จนทาง ‘Marvel Comics’ กลัวว่าทางผู้สร้างซีรีส์และโปรดิวเซอร์อย่าง เค็นเน็ธ จอห์นสัน (Kenneth Johnson) จะสร้างตัวละครที่คล้าย ‘Hulk’ ในแบบผู้หญิงขึ้นมาในซีรีส์ ทาง ‘Marvel Comics’ จึงชิงออกแบบและสร้างตัวละคร ‘She-Hulk’ ขึ้นมาก่อน เพื่อประกาศความเป็นเจ้าของสิทธิ์ตัวละครตัวนี้ ถ้าทางทีวีซีรีส์สร้างตัวละครแนว ๆ นี้ขึ้นมาทาง ‘Marvel Comics’ ก็จะอ้างสิทธิ์ได้ความเป็นเจ้าของได้ เรียกว่าชิงทำก่อนได้เปรียบอะไรแบบนั้น

She-Hulk

She-Hulk คือตัวการ์ตูนที่ Stan Lee ออกแบบเป็นเรื่องเกือบสุดท้ายที่เขียนให้ Marvel Comics

She-Hulk

อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจของตัวละคร ‘She-Hulk’ คือคนที่ออกแบบและสร้างเรื่องราวพื้นฐานให้ตัวละครคนนี้ก็คือปู่ สแตน ลี (Stan Lee) นักวาดการ์ตูนผู้ให้กำเนิดซูเปอร์ฮีโรในตำนานที่เรารู้จักเป็นอย่างดี ที่ในอดีตปู่สแตน ลีเคยออกแบบและสร้างตัวละครผู้พี่อย่าง ‘Hulk’ มาแล้ว เมื่อได้โอกาสออกแบบและสร้างตัวละครคนนี้ทางปู่สแตน ลีจึงออกแบบให้ ‘She-Hulk’ หรือ เจนนิเฟอร์ วอเตอร์ (Jennifer Waters) ไม่ใช่สาวสวยใสไร้สมองที่ใช้กำลังตัดสินปัญหาแบบ ‘Hulk’ หรือเป็นวัตถุทางเพศอย่างดาราหนังผู้ใหญ่ร่างยักษ์อย่างที่หลายคนคิดเมื่อนึกถึง ‘Hulk’ ร่างผู้หญิง เขาจึงสร้าง ‘She-Hulk’ ให้เป็นสาวแกร่งเก่งมีสมอง และที่สำคัญที่สุดก็คือตัวละครนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นแฟนกับ ‘Hulk’ ปู่สแตน ลีจึงแต่งให้ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันนั่นคือจุดกำเนิดของตัวละครนี้ และที่น่าจดจำอีกเรื่องคือ ‘She-Hulk’ คือการ์ตูนหนึ่งในสองเรื่องสุดท้ายที่ปู่สแตน ลีสร้างและเขียนให้ในเล่ม 1 ส่วนเรื่องสุดท้ายที่ปู่สแตน ลีเขียนและออกแบบคือเรื่อง ‘Ravage 2099’ ในปี 1992 ซึ่งเป็นเรื่องสุดท้ายที่ทำให้ ‘Marvel Comics’

She-Hulk

จุดกำเนิด She-Hulk ในหนังสือการ์ตูน

She-Hulk

หลังจากดูจุดกำเนิดของ ‘She-Hulk’ ในโลกแห่งความเป็นจริงไปแล้ว คราวนี้มาดูต้นกำเนิดของเธอในหนังสือการ์ตูนกันบ้าง โดยตัวตนที่แท้จริงของ ‘She-Hulk’ มีชื่อว่า เจนนิเฟอร์ วอเตอร์ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของ บรูซ แบนเนอร์ (Bruce Banner) ที่สมัยเด็กนั้นเจนนิเฟอร์เป็นคนขี้อายเก็บตัว ซึ่งสมัยเด็กเจนนิเฟอร์สนิทกับบรูซมาก ๆ ที่เมื่อโตขึ้นเจนนิเฟอร์ก็เอาดีทางด้านการเป็นทนาย ที่ว่าความเกี่ยวกับพวกคนร้ายที่ก่อคดีต่าง ๆ เข้าคุกมากมาย จนวันหนึ่งเจนนิเฟอร์ก็ถูกสายลับของ นิโคลัส ทรัสก์ (Nicholas Trask) หัวหน้าโจรที่ฆ่าแม่ของเจนนิเฟอร์เมื่อหลายปีก่อนมายิงเธอที่หน้าบ้านเธอ วันเดียวกับที่บรูซมาหาเธอเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องที่ตนแปลงร่างเป็นยักษ์เขียวสร้างความวุ่นวายไปทั่ว บรูซจึงช่วยเจนนิเฟอร์เอาไว้ได้ทัน แต่ด้วยกรุ๊ปเลือดของเจนนิเฟอร์นั้นเป็นกรุ๊ปหายากบรูซจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องถ่ายเลือดตัวเองเข้าไปในร่างของเจนนิเฟอร์เพื่อช่วยชีวิตเธอ นับจากวันนั้นชีวิตของเจนนิเฟอร์ก็เปลี่ยนไปทันที

She-Hulk

She-Hulk สามารถ Breaking the fourth wall ได้เหมือน Deadpool

She-Hulk

คราวนี้มาดูความสามารถพิเศษของ ‘She-Hulk’ ที่หลายคนยังไม่ทราบ นั่นคือการพูดคุยกับคนดูที่เราเรียกสิ่งนี้ว่า ‘Breaking the fourth wall’ ที่ใครคิดไม่ออกก็ให้นึกถึงภาพยนตร์ ‘Deadpool’ ที่จู่ ๆ ตัว ‘Deadpool’ ก็หันมาพูดกับคนดู ซึ่งเป็นการทำลายประตูที่ 4 ที่คั่นระหว่างคนดูกับตัวภาพยนตร์ที่เลียนแบบในหนังสือการ์ตูนที่ ‘Deadpool’ ทำได้ แต่สิ่งนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นกับ ‘Deadpool’ ที่รู้ว่าตัวเองคือตัวการ์ตูน แต่ความสามารถนี้มีมาตั้งแต่ ‘She-Hulk’ แล้ว ที่ตัวของเธอรู้ว่าตัวเองนั้นคือตัวละครในการ์ตูน และเมื่อใดที่แม่ไม่พอใจบทในการ์ตูนเธอก็จะหันมาด่าคนเขียน หรือบางทีก็หันมาถามความเห็นคนอ่านว่าแบบนี้คุณคิดว่าไง ซึ่งสิ่งนี้ก็ถูกเอามาใช้ในซีรีส์คนแสดงด้วย ที่เราจะได้เห็นฉากหนึ่งที่ ‘She-Hulk’ หันมาพูดกับคนดู ส่วนเหตุผลที่ ‘She-Hulk’ สามารถ ‘Breaking the fourth wall’ ได้เพราะในตอนนั้นนักเขียนต้องการสร้างความแปลกใหม่ให้กับเนื้อหา จึงใส่สิ่งที่เรียกว่า ‘Breaking the fourth wall’ ลงไปในเรื่องของ ‘She-Hulk’ นั่นเอง และไม่ใช่แค่ในหนังสือการ์ตูนหรือซีรีส์ แต่เมื่อ ‘She-Hulk’ ไปอยู่ในเกม ‘Marvel vs. Capcom 3 Fate of Two Worlds’ เธอก็รู้ว่าตัวเองเป็นตัวละครในเกมขนาดที่พูดกับคนเล่นว่า “ถ้ามีเกม ‘Marvel vs. Capcom 4’ แม่ก็จะกลับมาอัดทุกคนเหมือนเดิม” หรือถ้าเธอได้เจอกับ ‘Deadpool’ เธอจะพูดว่า “คุณรู้ไหมถ้าเกมนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1991 ฉันจะเป็นคนเดียวที่จะอัดคุณจนหมอบได้อย่างดายเลยทีเดียว” เรียกว่ากวนไม่แพ้ ‘Deadpool’ เลย

She-Hulk

พลังความสามารถต่าง ๆ ของ She-Hulk

She-Hulk

อย่างที่เราได้บอกไปในตอนต้นว่าปู่สแตนลีต้องการสร้างสิ่งที่ตรงข้ามกับ ‘Hulk’ ที่เป็นด้านตรงข้ามทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่ตัวละครยักษ์เขียวมีทาง ‘She-Hulk’ ก็อาจจะไม่มีหรืออาจจะมีแต่น้อยกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมสติของตนเองไม่ให้บ้าคลั่งแบบผู้เป็นพี่ แต่เมื่อใดที่เธอโกรธก็จะคุมสติไม่อยู่เช่นกัน และการแปลงร่างของเจนนิเฟอร์นั้นก็ไม่ได้มาจากแค่ความโกรธแต่จะมาจากความกลัวเพิ่มมาด้วย และยิ่งเธอโกรธพลังก็จะยิ่งสูงเหมือนผู้พี่และสามารถดูดซับรังสีได้เหมือนกัน แต่ทางด้านพละกำลังความแข็งแกร่งของ ‘She-Hulk’ นั้นอาจจะสู้กับพี่ชายไม่ได้ แต่เธอก็ถูกทดแทนด้วยสติปัญญาและวิชาต่อสู้ที่เรียนมา ซึ่งต่างกับ ‘Hulk’ ที่เน้นบ้าพลังในส่วนนี้ ‘She-Hulk’ จึงเหนือกว่า และที่สำคัญที่สุดคือตัว ‘She-Hulk’ สามารถเพิ่มพลังให้ตัวเองได้โดยไม่ต้องโกรธจากการฝึกฝนร่างกายตอนเป็นเจนนิเฟอร์ ที่เมื่อเธอแปลงร่างเป็น ‘She-Hulk’ เธอก็จะแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งต่างกับ ‘Hulk’ ที่พลังจะสูงต่ำตามความโกรธ เมื่อสู้กันทาง ‘She-Hulk’ จึงได้เปรียบในส่วนนี้ นอกจากนี้เมื่อเจนนิเฟอร์บาดเจ็บตอนเธอแปลงร่างเป็น ‘She-Hulk’ เธอจะสามารถฟื้นตัวได้ทันที แถมยังทนกระสุนความร้อนได้เหมือนพี่ชาย และเธอก็จัดเป็นตัวละครหญิงที่มีพละกำลังอันดับต้น ๆ ของ ‘Marvel Comics’ เลยทีเดียว

She-Hulk

ทำไม She-Hulk ถึงควบคุมสติตัวเองได้ต่างกับ Hulk

She-Hulk

ต่อเนื่องจากหัวข้อก่อนหน้านี้ที่เราได้พูดถึงการควบคุมสติของเจนนิเฟอร์ ตอนที่เธอแปลงร่างเป็น ‘She-Hulk’ และมีสติไม่บ้าคลั่งเหมือน ‘Hulk’ ที่เราได้เจอในภาพยนตร์ ‘Avengers Endgame’ ที่ตัวของบรูซได้เจรจาตกลงกับ ‘Hulk’ ในร่างว่าจะอยู่ร่วมกันคนละครึ่งทางในการใช้ชีวิต จนกลายมาเป็นบรูซในร่างยักษ์เขียว ซึ่งต่างกับของเจนนิเฟอร์ที่ตัวของเธอนั้นสามารถข่มจิตใจของ ‘She-Hulk’ ในร่างของเธอได้ในเวลาเพียงไม่นาน ซึ่งในตอนแรกตัวของ ‘She-Hulk’ ก็สร้างความวุ่นวายไม่ต่างกับพี่ชาย แต่ด้วยจิตใต้สำนึกอันแข็งแกร่งของเจนนิเฟอร์ ที่ต้องการเป็นผู้หญิงในอุดมคติที่สมบูรณ์แบบไม่ใช่เหมือนคนบ้าแบบพี่ชาย เจนนิเฟอร์จึงสามารถสะกดจิต ‘She-Hulk’ ได้ แต่สุดท้ายจิตของ ‘She-Hulk’ ก็มีพลังเหนือกว่าเจนนิเฟอร์ จนเธอสามารถตกลงเพื่ออยู่ร่วมกันได้ (ผู้หญิงเข้าใจผู้หญิงด้วยกัน) จึงทำให้ ‘She-Hulk’ แข็งแกร่งกว่าเดิม

She-Hulk

ผลกระทบกับการแปลงร่างเป็น She-Hulk

She-Hulk

แน่นอนว่าพลังอันยิ่งใหญ่ก็ต้องมาพร้อมกับชีวิตที่วุ่นวาย ในฐานะที่เธอต้องเป็นทั้งทนายและเป็นฮีโรที่ต้องช่วยเหลือผู้คน จึงทำให้ชีวิตของเจนนิเฟอร์ในช่วงแรกยุ่งยากมาก ๆ เพราะการแปลงร่างของเจนนิเฟอร์นั้นจะเหมือนกับพี่ชาย ตรงที่เธอจะไม่สามารถคืนร่างได้ดั่งใจในช่วงแรกของหนังสือการ์ตูน แถมเมื่อเธอเครียดกังวลหรือกลัวตอนทำงานที่อารมณ์ของผู้หญิงจะแปรปรวนต่างกับผู้ชายเธอจึงแปลงร่างบ่อย และในบางครั้งการแปลงร่างของเธอก็ยาวนานจนคืนร่างไม่ได้ ทำให้เจนนิเฟอร์ต้องใช้ชีวิตในฐาน ‘She-Hulk’ ที่เมื่อเป็นมากเข้าบ่อยเข้าเธอก็ชอบการเป็น ‘She-Hulk’ ที่สามารถทำอะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการ ต่างกับตอนเป็นเจนนิเฟอร์ผู้แสนอ่อนแอ จนเมื่อคืนร่างเป็นเจนนิเฟอร์เธอก็จะมีอาการขาดความมั่นใจในร่างมนุษย์จนไม่กล้าพูดหรือทำอะไร ถ้าจะให้เห็นภาพเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็คงเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้สึกมั่นใจถ้าไม่ได้แต่งหน้าก่อนออกนอกบ้านอะไรแบบนั้น ซึ่งในซีรีส์ดูจะตีความในส่วนนี้เหมือนกับในหนังสือ ซึ่งต้องมารอดูว่าเจนนิเฟอร์ในซีรีส์กับในหนังสือจะมีอาการเสียความมั่นใจเหมือนกันไหม

She-Hulk

การปูทางสู่ทีมเพื่อนหญิงพลังหญิงอย่าง Lady Liberators

She-Hulk

ปิดท้ายกับเรื่องราวการเดินทางของ ‘She-Hulk’ ในหนังสือการ์ตูน ที่ตัวของเธอนั้นก็ได้ร่วมทีมต่าง ๆ มากมายทั้ง ‘Avengers’ ทีมหลัก แถมเธอยังเคยร่วมทีมกับ ‘Fantastic Four’ แทน ‘The Thing’ ที่ออกจากทีมไป แต่ทีมที่น่าสนใจที่สุดซึ่งเราก็คิดว่าในอนาคตทาง ‘Marvel Studios’ อาจจะหยิบมาทำ นั่นคือการสร้างทีมพลังหญิงขึ้นมาเหมือนทีม ‘Lady Liberators’ ที่เป็นการรวมตัวของเหล่าฮีโรหญิงในจักรวาล ‘Marvel’ มาร่วมกันต่อสู้ ที่บอกให้รู้ว่าผู้หญิงก็สามารถต่อสู้ได้เท่าเทียมกับผู้ชาย ซึ่งในยุคนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ถูกกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงเรื่องความเท่าเทียม ที่คนยุคนั้นยังมองว่าตัวละครหญิงคือคนที่ควรเป็นฝ่ายสนับสนุนและผู้ชายเป็นใหญ่อยู่ บวกกับเนื้อหาที่ค่อนข้างเอนเอียงเกี่ยวกับความเหนือกว่าของตัวละครหญิงที่มากเกินไป จึงทำให้หัวหนังสือนี้ถูกยุบในเวลาต่อมา ซึ่งในตอนนี้ก็เป็นเวลาเหมาะมาก ๆ ที่จะเอาตัวละครหญิงในภาพยนตร์ซีรีส์ของ ‘Marvel Studios’ มาร่วมกัน เพราะ ‘She-Hulk’ ที่เป็นหัวเรือใหญ่ของทีมก็มาครบแล้ว ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นการรวมตัวของสาว ๆ ทีมนี้ก็ได้ใครจะรู้

Avengers Endgame
She-Hulk

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสาวแกร่ง ‘She-Hulk’ ที่เราหยิบมานำเสนอหวังว่าจะทำให้คุณดูซีรีส์ ‘She-Hulk’ ได้สนุกขึ้นไม่มากก็น้อย ซึ่งต้องขอย้ำก่อนว่าเนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงมาจากในฉบับหนังสือการ์ตูนเท่านั้น ซึ่งคงจะมีหลายส่วนที่คล้ายหรืออาจจะไปตรงกันกับในซีรีส์ตรงไหนก็ขออภัยมาด้วย แต่ก็คงคิดว่าเนื้อหาในซีรีส์กับในการ์ตูนคงจะไม่เหมือนกันมาก และคงจะไปในแนวทางของตัวเองเหมือนเรื่องอื่น ๆ ที่ผ่านมาของ ‘Marvel Studios’ และถ้าข้อมูลผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยมาด้วย ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการ์ตูนเกมซีรีส์อะไรก็รอติดตามที่แบไต๋ได้เลย เพราะที่นี่มีทุกความบันเทิงที่คุณชอบรวมไว้ให้หมดแล้วมาดูกันตอนนี้ได้เลย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

[รีวิวเกม] “Kingdom Rush Vengeance” ที่สุดของเกม Tower Defense ที่คุณต้องลอง!!
8.6 / 10

[รีวิวเกม] “Kingdom Rush Vengeance” ที่สุดของเกม Tower Defense ที่คุณต้องลอง!!

Kingdom Rush Vengeance คือเกมแนว Tower Defense ที่จะให้เราได้มาสร้างป้อมป้องกันฐานไม่ให้ถูกศัตรูรุกรานเข้าไปได้ โดยภาค Vengeance ...อ่านต่อ

[บทความ] 10 เกมที่ควรรีเมกด้วยกราฟิกแบบ HD-2D

กราฟิกแบบ HD-2D ซึ่งเป็นการผสมผสานความคลาสสิกแบบพิกเซลกับความคมชัดแบบ HD ได้ลงตัวทำให้มีคอเกมอยากให้นำแนวทางกราฟิกแบบนี้ HD-2D ไปสร้างเกมเก่ามาขายใหม่

รีวิวเกม Shovel Knight Dig อัศวินพลั่วขุดทะลุโลกที่หัวร้อนกว่าเดิม
8.5 / 10

รีวิวเกม Shovel Knight Dig อัศวินพลั่วขุดทะลุโลกที่หัวร้อนกว่าเดิม

การเปลี่ยนแนวมาใช้ระบบฉากแบบสุ่มใน Shovel Knight Dig ทำออกมาได้ดีเกินคาด และสามารถถ่ายทอดความสนุกของเกมแนวนี้ได้ดี มีความท้าทายให้ได้สัมผัส

Play video
Video
feature

รีวิว iPhone 14 Pro พร้อมเปรียบเทียบภาพจาก iPhone 13 Pro และ Galaxy S22 Ultra

หลังจากเราถือใช้ iPhone 14 Pro ใช้มา 1 สัปดาห์ในอุณหภูมิไทย เราสรุปความเห็นได้ว่า ถ้าคุณใช้ iPhone 13 Pro อยู่แล้ว อย่าไปเสียเงินซื้อใหม่เลยครับ iPhone 14 Pro มันมีบางอย่างสู้รุ่นเก่าไม่ได้ ...อ่านต่อ