SHOPLINE ผู้นำระบบจัดการร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซและโซเซียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจร (Global Smart Commerce Enabler) เบอร์หนึ่งในเอเชีย เปิดให้บริการเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย! พร้อมกลยุทธ์เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการไทย “ปลดล็อก” ทุกข้อจำกัดสู่ความสำเร็จบนตลาดอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซ ด้วยแพลตฟอร์มการจัดการร้านค้าออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ ชูจุดเด่นการเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่รวมเอาโซลูชั่นการจัดการร้านค้าทั้งบนอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซมาไว้ในที่เดียว ตอบโจทย์การใช้งานของธุรกิจทุกขนาดด้วยระบบการจัดการที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย ดึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

พร้อมเดินหน้าหนุนผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยแพ็คเกจค่าบริการสุดพิเศษด้วยราคาเริ่มต้นเพียงเดือนละ 599 บาท หรือเพียง 4,999 บาท ต่อปี

นายชนนันท์ ปัญจทรัพย์ Country Manager จาก SHOPLINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า SHOPLINE คือผู้นำระบบการจัดการร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจร ที่ช่วยผู้ประกอบการทั้งที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่และ SMEs ให้ประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ตลาดดิจิทัลมาแล้วมากมายในหลายประเทศที่มีผู้ใช้บริการ มากกว่า 250,000 รายทั่วโลก และมีการเข้าถึงลูกค้ามากกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก และในวันนี้ SHOPLINE และทีมงานในประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยด้วยความมุ่งมั่น และต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจให้ก้าวเข้าสู่ตลาดออนไลน์ได้อย่างทัดเทียมกับธุรกิจทั่วโลก ด้วยแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ ด้วยบริการระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ที่รองรับทั้งการทำร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซและโซเซียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจรครั้งแรกในไทย

“จุดเด่นของ SHOPLINE ไม่ได้มีแค่การนำเสนอบริการที่ครบวงจรเท่านั้น แต่เรามาพร้อมโซลูชั่นที่ออกแบบและพัฒนามาเพื่อคนไทย โดยก่อนเปิดให้บริการในประเทศไทย SHOPLINE ได้ทำการวิจัยตลาดและเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาโซลูชั่นการใช้งานอย่างต่อเนื่องกว่า 9 เดือน เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับประสบการณ์ของผู้ใช้ เพื่อเป้าหมายการสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการและแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการและนักช้อปชาวไทยได้อย่างแท้จริง

ทำให้เวลานี้ SHOPLINE เป็นผู้ให้บริการระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ให้บริการครบวงจรเจ้าแรกในประเทศไทย ที่มีทั้งโซลูชั่นบนบนอีคอมเมิร์ซและโซเซียลคอมเมิร์ซ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์ให้สามารถใช้งานได้ง่ายดาย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เพื่อเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายตลาดออกไปได้กว้างมากขึ้นในโลกออนไลน์ เพื่อนำไปสู่โอกาสการสร้างยอดขายที่เติบโตขึ้นในที่สุด”

โดยโซลูชั่นที่ออกแบบมาสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะนี้ จะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดเดิม ๆ ที่ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ต่างประสบปัญหามาแล้วในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยแบ่งการให้บริการออกเป็น

  • E-commerce Solution หรือ ระบบการจัดการร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซ ที่จะตอบโจทย์ทุกธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นหรือปรับปรุงการจัดการของร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซให้สะดวกรวดเร็ว โดยบริการนี้จะครอบคลุมตั้งแต่การเปิดร้านค้าออนไลน์และระบบจัดการหลังบ้าน ได้แก่ โซลูชั่นการสร้างเว็ปไซด์สำหรับร้านค้าที่รองรับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ได้หลากหลายรูปแบบ ที่มาพร้อมด้วยระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ ทั้งระบบการจัดการออเดอร์ การจัดการสต็อกสินค้า การชำระเงิน การทำ ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ CRM   เครื่องมือทางการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลและตัวติดตามทางการตลาดเพื่อช่วยด้านการเพิ่มยอดขาย ที่สามารถเชื่อมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ อาทิ Google, Facebook, LINE OA และอื่น ๆ ที่รองรับการใช้งานได้มากกว่า 18 สกุลเงิน และมีตัวเลือกหลายภาษา สำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ
  • Social commerce Solution หรือ ระบบการจัดการร้านค้าบนโซเชียลคอมเมิร์ซ ที่จะตอบโจทย์ทุกธุรกิจที่ต้องการกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากมาย อาทิ Shopline Live App ระบบตัวช่วยแม่ค้าออนไลน์ในการ live-streaming ขายสินค้าแบบครบวงจรที่สามารถช่วยจัดการออเดอร์ ตอบกลับลูกค้า และระบบการชำระเงิน อีกทั้งระบบการจัดการข้อความจากลูกค้า โดยมี Chatbot เพื่อการตั้งค่าคำถามที่ถูกถามบ่อย โดยสามารถเชื่อมต่อกับ LINE OA ได้

นายชนนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยกำลังเติบโตขึ้นตามเทรนด์ของตลาดโลก โดยปีที่ผ่านมาตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตแบบก้าวกระโดดคิดเป็นมูลค่ากว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 270,000 ล้านบาท (ข้อมูลวิจัย “เศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2563 จาก Google, Temasek และ Bain & Company) โดยมีปัจจัยมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป และหันมาช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอยู่บนออนไลน์มากขึ้น จึงเชื่อว่าจะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดอีคอมเมิร์ซในระยะข้างหน้าเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

จากเทรนด์ดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยทั้งรายเล็ก รายใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น แต่หากมองลึกไปกว่านั้นกลับพบว่ากลุ่มผู้ประกอบการจำนวนมากยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางธุรกิจในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดด้านทรัพยากร งบประมาณ และความรู้ด้านเทคโนโลยี และด้วยข้อจำกัดเหล่านี้ “SHOPLINE” จะเป็นโซลูชั่นที่เข้ามาเติมเต็มและเสริมศักยภาพด้วยโซลูชั่นการจัดการร้านค้าออนไลน์บนอีคอมเมิร์ซและโซเซียลคอมเมิร์ซที่จะตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างลงตัว เพื่อช่วยให้ SMEs สามารถปลดล็อกและก้าวข้ามทุกขีดจำกัดได้

“มูลค่าธุรกิจ SMEs มีสัดส่วนกว่า 40% ของจีดีพี จึงถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับความท้าทายใหญ่ที่จะต้องฝ่าฟันไปให้ได้ ตลาดออนไลน์จึงเปรียบเสมือนแสงสว่างในปลายอุโมงค์ ที่จะเป็นทางรอดให้กับพวกเขา โซลูชั่นการจัดการร้านค้าออนไลน์ของ SHOPLINE จึงสามารถเข้าไปตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นทั้งการใช้งานง่าย สะดวก และราคาไม่แพง เหมาะสำหรับ SMEs ที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุดแต่สามารถได้ประโยชน์มากที่สุด”

ในโอกาสเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และเพื่อต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 SHOPLINE จึงเสนอค่าบริการที่คุ้มค่าด้วยแพ็คเกจ E-commerce รายเดือนอยู่ที่ 599 บาท ส่วนรายปี 4,999 บาท แพ็คเกจ Social commerce ราคารายเดือนอยู่ที่ 599 บาท ส่วนรายปีที่ 4,999 บาท และสุดท้ายเป็นแพกเกจในแบบ ALL in One ซึ่งจัดให้แบบสุดคุ้มกับราคารายเดือนเริ่มต้นที่ 1,199 บาท และรายปีที่ 7,999 บาท

“ด้วยจุดเด่นของโซลูชั่นการจัดการร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรของ SHOPLINE จึงเหมาะสำหรับผู้ประกอบการทุกระดับที่ต้องการประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดดิจิทัล และด้วยบริการของเราที่ตอบโจทย์ทุกๆ ความต้องการ ทำให้เชื่อว่าการมาเปิดตลาดในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการอีคอมเมิร์ซไทย และมีส่วนผลักดันให้ผู้ประกอบการก้าวเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง” นายชนนันท์ กล่าว

เนื้อหาล่าสุด

เผยตัวอย่างเกมเพลย์ Shin Megami Tensei V พร้อมกับรายละเอียดชุดวางจำหน่ายแบบพิเศษต่าง ๆ

ทาง Atlus ค่ายเกมที่พัฒนาซีรีส์ Shin Megami Tensei และ Persona ได้เผยตัวอย่างเกมเพลย์ใหม่ของ Shin Megami Tensei V บนแชนแนล Youtube พร้อมกับรายละเอียดชุดวางจำหน่ายดพิเศษต่าง ๆ ...อ่านต่อ

เตรียมตัวต้อนรับสู่อนาคต กับ ‘ทศพล พิชญโยธิน’ ทาเลนต์ข่าวเช้า beartai BRIEF

'ทศพล พิชญโยธิน' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพ อาร์ไอเอ แล็บ จำกัด (กลุ่มบริษัท BRIA) ผู้คร่ำหวอดด้านไบโอเทคในประเทศไทย หรือ 'คุณนท' หนึ่งในทาเลนต์เล่าข่าวเช้า beartai ...อ่านต่อ

Tesla เปิดสถานีชาร์จที่มีโรงเก็บพลังงานแห่งแรกในประเทศจีน

23 มิถุนายน เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกเผยว่าบริษัทได้เปิดสถานีชาร์จที่สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์และมีโรงเก็บพลังงานเป็นของตัวเองแห่งแรกในประเทศจีน ...อ่านต่อ

Square Enix กำลังพัฒนาซีรีส์แอนิเมชันให้กับ Final Fantasy 9

Final Fantasy 9 เป็นเกมแนว Turn-based RPG จากซีรีส์ชื่อดังของค่าย Square Enix ที่ออกวางจำหน่ายในช่วงปี 2000 ให้กับเครื่องคอนโซล Playstation ...อ่านต่อ

ข่าวลือเผยสมาร์ตโฟนของ Vivo จะใช้ชิป Exynos 2200 ของ Samsung ที่มาพร้อม GPU จาก AMD

ทิปสเตอร์บน Weibo เผยชิป Exynos ที่ผลิตโดย Samsung จะไม่ใช่ชิปสำหรับสมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy เพียงตระกูลเดียวอีกต่อไป เพราะชิปประมวลผลตัวใหม่ Exynos 2200 ที่ออกมาแข่งขันกับชิปโมเดล A ...อ่านต่อ