วิกฤตวัยกลางคน (midlife crisis) คือ ช่วงอายุของบุคลระหว่าง 35 – 50 ปี ที่มีกระบวนการคิดประเมินชีวิตของตัวเองอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่มักเกิดจากการคิดว่า ชีวิตนี้เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว ซึ่งภาวะวิกฤตวัยกลางคนนี้ ไม่ใช่โรคทางกาย และไม่ใช่ความผิดปกติทางการแพทย์แต่อย่างใด พบได้ในคนทั่วไป ส่วนใหญ่ไม่มีอาการรุนแรง มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่กระบวนการคิดผลักดันให้เกิดการตัดสินใจทำอะไรรุนแรง โดยไม่ไตร่ตรอง เช่น หย่าขาดกับภรรยา , มีเมียน้อย , ลาออกจากงานประจำไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือ เอาเงินเก็บทั้งหมดไปลงทุนทำอย่างอื่น เป็นต้น

ศาสตราจารย์ Calvin Colarusso คณบดีภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก” กล่าวว่า “ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องใหญ่ ๆ นี้อาจเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เพราะส่วนมากแล้ววัยกลางคนอาจจะต้องเผชิญหน้ากับช่วงเปลี่ยนผ่านของวัยกลางคน (Midlife Transition) ซะมากกว่า ซึ่งก็อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ คล้ายอาการวัยทอง”

ข้อมูลจาก kapook.com

เพราะอะไร วิกฤตวัยกลางคน (midlife crisis) ถึงเกิดกับบุคคลช่วงอายุนี้

  • การเสื่อมของร่างกาย : ในวัยนี้ร่างกายจะเริ่มเสื่อมลง ไม่แข็งแรงเท่ากับตอนวัยรุ่น ช่วงอายุนี้หลายคนมักรู้สึกว่าตัวเองไม่ฟิตเท่าเดิม เริ่มหัวเริ่มล้าน และเริ่มมีโรคประจำตัว
  • ฮอร์โมนเปลี่ยน : โดยเฉพาะในผู้หญิง จะเห็นชัดว่าผู้หญิงหลายคนจะเริ่มเข้าสู่ช่วงหมดประจำเดือน หรืออาการของคนที่กำลังจะเข้าวัยทองนั่นเอง
  • ต้องการความสำเร็จในชีวิต : ในช่วงอายุนี้นอกจากชีวิตครอบครัวแล้ว สิ่งที่สำคัญเลยคือเรื่องของการทำงาน ซึ่งมักจะคิดว่าทำงานมาแล้วเป็นสิบปี จึงต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
  • กังวลเรื่องของเวลาการใช้ชีวิต :  ช่วงอายุนี้หลายคนจะเริ่มรู้สึกว่า “เหลือเวลาการใช้ชีวิตอีกไม่นานแล้วนะ” “จะเกษียณแล้ว” หรือ “ใกล้ความตายเข้าไปทุกที” และจะคิดว่า ควรจะต้อง “ทำอะไร” ซักอย่างแล้ว
  • การสูญเสียคนใกล้ชิด : ช่วงอายุนี้มักพบเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียคนใกล้ชิด ทั้ง พ่อ , แม่ ปู่ , ย่า ตา , ยาย หรือแม้กระทั่งเพื่อนฝูง

วิธีสังเกตความเสี่ยงของตัวเรา ว่ากำลังอยู่ในช่วงวัยวิกฤตวัยกลางคนหรือไม่

อาการที่เห็นได้เด่นชัดคือ ความคิดที่สับสนกับชีวิต ไม่พอใจหลายสิ่งในชีวิต ทั้งเรื่องงาน ชีวิตคู่ ที่อยู่อาศัย หรือสุขภาพ หรือการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ เช่น อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย จนถึงซึมเศร้า และมักจะแสดงออกให้เห็นชัดผ่านการกระทำที่รุนแรง และกะทันหัน สิ่งที่พบบ่อยอีกข้อนึงก็คือ รังที่ว่างเปล่า (Empty-nest syndrome) จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อลูก ๆ ต้องออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น ไปเรียน แต่งงาน หรือทำงานที่อื่น ทำให้พ่อหรือแม่เกิดความรู้สึกเหงา เศร้า มักพบมากในผู้ที่มีความผูกพันกับลูกมาก

การจัดการกับวิกฤตวัยกลางคน

  • เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น : เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือเราต้องเข้าใจและยอมรับภาวะนี้ก่อน เมื่อรู้จักและยอมรับแล้ว ก็จะนำไปสู่การจัดการแก้ไขได้อย่างเหมาะสมต่อไป
  • ปรึกษาผู้อื่นเสมอในเรื่องที่สำคัญ : เป็นการระบายออกทางหนึ่ง ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการคิดมากในใจลงได้ จะช่วยให้เรามองเห็นว่า สิ่งที่เราจะทำมันสมเหตุสมผลแค่ไหน เพื่อลดโอกาสการตัดสินใจที่ผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ : การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล และยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ป้องกันการเป็นโรคซึมเศร้าได้ ยิ่งวัยนี้มีความเสี่ยงที่สุขภาพจะเริ่มเสื่อมลง และเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย การออกกำลังกายจึงเป็นเรื่องสำคัญและมีประโยชน์
  • หากิจกรรมทำทดแทน : ถือเป็นช่องทางอีกช่องทางนึงที่จะช่วยบรรเทาความเหงา ความเศร้าใจของเราลงได้ เช่น ออกกำลังกาย ไปเที่ยวพบปะสังสรรค์กับเพื่อน การเข้าร่วมชมรมต่าง ๆ หรือทำงานการกุศล เป็นต้น

อย่าปล่อยให้อายุและความชรา และภาวะวิกฤตวัยกลางคน มาเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราเลยค่ะ ดังนั้นการเข้าใจ , ยอมรับและเตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะนี้ จะทำให้เราก้าวผลช่วง วิกฤตวัยกลางคน (midlife crisis) ไปได้อย่างง่ายดาย  

ขอบคุณข้อมูลจาก : นพ.ธรรมนาถ เจริญบุญ 

เนื้อหาล่าสุด

Play video

หนุ่ย พงศ์สุขท้าเหยียบตะปู!! รีวิว RideOn น้ำยาป้องกันยางแตก

ยางรั่วทั้งทีต้องได้เนื้อหา! หนุ่ย พงศ์สุขรีวิว RideOn น้ำยาป้องกันยางแตก มันคืออะไร ใช้งานได้จริงแค่ไหน เราเลยจัดเหยียบตะปูโชว์อีกรอบให้รู้กัน จะรั่วหรือไม่ มาพิสูจน์ด้วยตาของคุณเอง ที่นี่! ...อ่านต่อ

เดลล์ เปิดตัวแล็ปท็อป XPS 13 ใหม่ การันตี CES 2018 Innovation Award

เดลล์ (ประเทศไทย) ประกาศเปิดตัวแล็ปท็อป XPS 13 ใหม่ ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด พร้อมรูปลักษณ์เพรียว เบา บางเฉียบยิ่งขึ้น ด้วยจอแสดงผลแบบ InfinityEdge ด้วยความละเอียดสูงระดับ 4K ...อ่านต่อ