รีวิว Seagate Firecuda 510 SSD ตัวแรง อ่าน-เขียนข้อมูลระดับ 3 GB/s ในการ์ดแบบ M.2 NVMe
Our score
9.2

Seagate FireCuda 510

จุดเด่น

  1. ประสิทธิภาพในการอ่าน/เขียนข้อมูลสูงจริง
  2. มีตัวเลขความทนทานสูงกว่า SSD ในระดับเดียวกัน
  3. ราคาเทียบกับประสิทธิภาพแล้วคุ้มค่า
  4. รับประกัน 5 ปี

จุดสังเกต

  1. ไม่มีรุ่นที่มาพร้อม Heat Sink ขาย
  2. FireCuda ไม่มีรุ่นที่มีความจุต่ำกว่า 1 TB ขาย
  • ดีไซน์

    9.0

  • ประสิทธิภาพ

    10.0

  • ความทนทาน

    9.5

  • ความคุ้มค่า

    8.5

ถ้าย้อนกลับไปสัก 5 ปีที่แล้ว เราคงไม่เชื่อว่าวันหนึ่งเราจะมีหน่วยความจำสำหรับคอมพิวเตอร์ที่อ่านเขียนข้อมูลได้ในระดับ 3 GB ต่อวินาทีในราคาที่เอื้อมถึง แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าแทบจะหมดยุคการใช์ฮาร์ดดิสก์สำหรับคอมพิวเตอร์ในบ้านไปแล้วเมื่อ SSD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ามากได้ลดราคาลงมาจนเอื้อมถึง และนี่คือ Seagate Firecuda 510 การ์ดหน่วยความจำแบบ M.2 NVMe ตัวท็อปจากซีเกทที่เราจะรีวิวในครั้งนี้ครับ

รู้จักสายตระกูลของ Seagate SSD กันสักนิด

เซียนคอมพิวเตอร์คงรู้จัก Seagate กันดีในฐานะผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายต้นๆ ของโลก ซึ่งเมื่อเทรนด์โลกเปลี่ยนมาเป็น SSD ก็มีหรือที่ซีเกทจะไม่กระโดดเข้าร่วมด้วย ซึ่งตอนนี้ SSD สำหรับผู้ใช้ทั่วไปจากซีเกทมีอยู่ด้วยกัน 3 ตระกูลครับ

  • BarraCuda – SSD สำหรับผู้ใช้งานตามบ้านทั่วไป มีราคาคุ้มค่า มีให้เลือก 2 แบบคือ แบบการ์ด M.2 NVMe ที่มีความจุ 256/512 GB ให้เลือก โดยให้ความเร็วได้สูงสุดคืออ่าน 3400 MB/s และเขียน 2180 MB/s สำหรับรุ่นความจุ 512 GB ส่วนแบบไดร์ฟ 2.5 นิ้วการเชื่อมต่อ SATA มีตั้งแต่ 250 GB ถึง 2 TB โดยทำความเร็วสูงสุดได้ 560 MB/s
  • FireCuda – SSD ตัวแรงสุดที่เรารีวิวในครั้งนี้เพื่อเกมเมอร์หรือคนทำงานสายครีเอทีฟหรือโปรดักชัน มีแค่รูปแบบ M.2 NVMe เท่านั้น โดยอ่านด้วยความเร็วสูงสุด 3,450 MB/s และเขียนได้ 3,200 MB/s
  • IronWolfSSD สำหรับ NAS หรือหน่วยเก็บข้อมูลในเครือข่ายโดยเฉพาะ มีเทคโนโลยีเฉพาะตัวเพื่อเสริมความทนทานของข้อมูล โดยมีแต่แบบไดรฟ์ 2.5 นิ้วเชื่อมต่อผ่าน SATA ให้เลือกเท่านั้น

ซึ่ง SSD ในปัจจุบันจะมี 2 อินเทอร์เฟซการเชื่อมต่อนะครับ คือ

  • NVMe (Non-Volatile Memory Express) รูปแบบการเชื่อมต่อยุคใหม่สำหรับคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ สามารถรองรับความเร็วในการอ่านเขียนได้สูง เพราะผูกสัญญาณเข้ากับ PCI Express ไปเลย และมักอยู่ในรูปแบบพอร์ต M.2 ซึ่งปัจจุบันที่นิยมใช้กันจะเป็น PCIe Gen 3 x4 (4 เลน) เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่รองรับ แต่ก็เริ่มมี SSD NVMe แบบ Gen 4 ที่ให้ความเร็วสูงกว่า Gen 3 วางขายแล้ว โดยต้องใช้กับเมนบอร์ดที่รองรับด้วย
  • SATA (Serial Advanced Technology Attachment) ให้ความเร็วสูงสุดแค่ 6Gbps หรือ 600 MB/s เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อดั้งเดิมที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยฮาร์ดดิสก์ สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งพอร์ต SATA เดิม และ M.2 แบบปัจจุบัน

เจาะรายละเอียด Seagate FireCuda 510

ดีไซน์ของ Seagate FireCuda 510 นั้นไม่มีอะไรซับซ้อนครับ เป็นการ์ด M.2 2280 หรือการ์ดแบบยาวที่มีชิปหน่วยความจำอยู่ทั้ง 2 ด้าน (อันนี้จะแปลกนิดหน่อย เพราะที่ผ่านมาเราเคยรีวิวแต่การ์ดที่มีหน่วยความจำแปะอยู่ข้างเดียว) ด้านหน้าก็เป็นสติกเกอร์สีดำส้มแปะชัดเจนกว่าเป็นการ์ด Seagate Firecuda 510 ซึ่งก็มีการ์ดแบบนี้วางจำหน่ายรูปแบบเดียวครับ ไม่มีการ์ดเวอร์ชันที่มี Heatsink ขายด้วย โดย SSD รุ่นนี้มีให้เลือก 2 ความจุคือ 1 TB และ 2 TB ครับ ก็เรียกได้ว่าสำหรับคนชอบของแรงโดยเฉพาะ ถ้าต้องการความจุที่ต่ำกว่านี้ ก็ต้องไปซื้อ BarraCuda 510 แทน

รุ่นที่เราได้มารีวิวนั้นมีความจุ 2 TB ซึ่งมีสเปกดังนี้

  • ความเร็วในการอ่านต่อเนื่องสูงสุด 3,450 MB/s
  • ความเร็วในการเขียนต่อเนื่องสูงสุด 3,200 MB/s
  • Endurance 2,600 TBW (Total Bytes Written)
  • MTTF (Mean Time To Failure) ค่าเฉลี่ยในการใช้งานก่อนที่จะเสียอยู่ที่ 1.8 ล้านชั่วโมง

นอกจากนี้ Seagate ยังมีเครื่องมือชื่อว่า SeaTools ให้ดาวน์โหลดมาเพื่อเช็กรายละเอียดเกี่ยวกับ SSD ในเครื่องอีกด้วย โดยเฉพาะอายุที่เหลือของไดรฟ์ และตัวเลขในการใช้งานต่างๆ ซึ่งใครที่สนใจตัวเลขพวกนี้ก็ดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บของซีเกทครับ

ทดสอบประสิทธิภาพ Seagate FireCuda 510

เราทดสอบประสิทธิภาพของ Seagate FireCuda 510 ด้วย CrytralDiskMark 6 นะครับ ก็ได้ผลน่าสนใจ คือสามารถอ่านข้อมูลแบบต่อเนื่องได้ความเร็วถึง 3.4 GB/s และสามารถเขียนต่อเนื่องได้ 3 GB/s ส่วนการทดสอบเขียนแบบสุ่ม 4KiB 8 Queues 8 Threads ก็ยังได้ความเร็วในระดับ GB/s อยู่ดี

ส่วนการทดสอบความเร็วในการก๊อปปี้ไฟล์ด้วย AS SSD Benchmark 2 ก็สามารถก๊อปไฟล์ ISO ใหญ่ๆ เสร็จใน 0.6 วินาที ด้วยความเร็ว 1.8 GB/s ส่วนการก๊อปไฟล์ในลักษณะของโฟลเดอร์โปรแกรมที่มีไฟล์เล็กๆ มากมายก็ทำความเร็วได้ 490 MB/s และการก๊อปไฟล์เกมที่มีไฟล์เล็กและไฟล์ใหญ่ผสมกันก็ทำได้ในระดับ 1.1 GB/s เลยทีเดียว

ตารางเทียบประสิทธิภาพของ Seagate FireCuda 510 กับ SSD ที่เราเคยทดสอบ

ความเร็วในการอ่านต่อเนื่องตามสเปกความเร็วในการอ่านจาก CrystalDiskMarkความเร็วในการเขียนต่อเนื่องตามสเปกความเร็วในการเขียนจาก CrystalDiskMarkMean Time Between Failures (MTBF)Interface
WD Black (2018) - 250 GB3,000 MB/s3,058.7 MB/s1,600 MB/s1613.5 MB/s1.75 ล้านชั่วโมงPCIe Gen3 ×4, NVMe
WD Black SN750 - 1 TB3,470 MB/s3,464.6 MB/s3,000 MB/s2,997.7 MB/s1.75 ล้านชั่วโมงPCIe Gen3 ×4, NVMe
Seagate Firecuda 510 - 2 TB3,450 MB/s3,436.3 MB/s3,200 MB/s3,016.8 MB/s1.8 ล้านชั่วโมงPCIe Gen3 ×4, NVMe
WD Blue SN500 - 500 GB1,700 MB/s1,730 MB/s1,450 MB/s1,462.67 MB/s1.75 ล้านชั่วโมงPCIe Gen3 ×2, NVMe
Kingston KC2500 - 1 TB3,500 MB/s3,348 MB/s2,900 MB/s2,786 MB/s2 ล้านชั่วโมงPCIe Gen3 ×4, NVMe
Kingston NV1 - 1 TB2,100 MB/s2078 MB/s1,700MB/s1,733 MB/s1.5 ล้านชั่วโมงPCIe Gen3 ×4, NVMe

Play video

โดยรวมแล้วถือว่า FireCuda 510 ให้ประสิทธิภาพที่ดีมากสมเป็น SSD ตัวท็อปครับ ให้ประสิทธิภาพดีมาก ตัวเลขความทนทานก็ใช้ได้ในราคาไม่แพง ซึ่งราคาถูกสุดที่เราหาได้ตอนที่ระหว่างเขียนบทความช่วงต้นเดือนสิงหาคมคือ

  • Seagate FireCuda 510 ความจุ 1 TB ราคาประมาณ 8,000 บาท
  • ส่วนความจุ 2 TB ที่ได้มารีวิวในวันนี้ก็ประมาณ 12,000 บาทครับ

ส่วนถ้าจะหาถูกกว่านี้ Seagate Barracuda 510 ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่านิดหน่อย ก็ขายความจุ 512 GB ที่ราคา 3,000 ปลายๆ เท่านั้นเอง ยุคนี้ แทบไม่ต้องมองฮาร์ดดิสก์แล้วครับ ซื้อ SSD ใส่ไปได้ จบ

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส