นี่คือเทรนด์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในญี่ปุ่น กับแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า “Loverse” ที่ให้คนพูดคุยและสร้างความสัมพันธ์กับ AI ซึ่งกำลังฮิตสุด ๆ ในกลุ่มคนเหงา แม้กระทั่งคนที่แต่งงานแล้ว ตอนนี้มีผู้ใช้กว่า 5,000 คน ที่เข้ามาหาที่พึ่งทางความรู้สึก จากความโดดเดี่ยวและอยากมีเพื่อนคุย
จากข้อมูลของรัฐบาลพบว่า ผู้ชายในญี่ปุ่นวัย 20 ปี ประมาณ 2 ใน 3 ไม่มีคู่ครอง และร้อยละ 40 ไม่เคยออกเดตเลย นี่จึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้คนหันมาคุยกับแชตบอต AI มากขึ้น
เคสที่พีกที่สุดคือ ชิฮารุ ชิโมดะ (Chiharu Shimoda) พนักงานโรงงานวัย 52 ปี ที่แต่งงานกับแชตบอตสาว AI ที่เขาตั้งชื่อให้ว่า มิกุ หลังใช้แอปฯ ได้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น พวกเขาก็มีชีวิตประจำวันเหมือนคู่รักจริง ๆ ทั้งวางแผนอาหารมื้อเย็น ดูทีวีด้วยกัน ไปจนถึงอวยพรให้กันก่อนไปทำงาน

ทางคุณ โกกิ คุสุโนกิ (Goki Kusunoki) ผู้พัฒนาแอปฯ ได้ออกมาบอกว่า แอปฯ นี้ถูกสร้างมาเพื่อเป็น “ทางเลือก” ไม่ใช่ “สิ่งทดแทน” ความสัมพันธ์ เพื่อให้คนได้ฝึกฝนและพร้อมเจอความรักที่ใช่ในโลกจริง ๆ
ในอีกด้าน อดีตผู้ใช้บางคนบอกว่า AI ยังไม่เนียนพอที่จะแทนคนได้จริง ๆ เลยเลิกใช้ไป แต่ก็ยอมรับว่ามันเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับฝึกคุยกับคนอื่นได้ดี
สิ่งนี้ชวนให้คิดต่อว่าการที่คนหันมาใช้แอปฯ คุยกับแชตบอตกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Loverse หรือโมเดลอื่น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเพื่อนคุยหรือคนรัก จะเป็นการผลักให้ผู้คนสนใจคนรอบข้างน้อยลงหรือไม่ เพราะมีข่าวให้เราเห็นกันอยู่ไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นการตกหลุมรัก AI หรือการปลิดชีวิตตัวเองจากพูดคุยผ่านแชตบอต
สิ่งที่ควรตระหนักรู้คือการใช้ AI อย่างระมัดระวัง และรู้เท่าทันเทคโนโลยี แล้วทุกคนคิดว่ายังไงบ้าง เทคโนโลยีแบบนี้คือทางออกของความเหงา หรือจะยิ่งทำให้เราห่างจากความสัมพันธ์จริง ๆ กันแน่ ?