หลังจากที่ HUAWEI ออกมายืนยันว่าจะมีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด Mate 80 Series และสมาร์ตโฟนจอพับ Mate X7 ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ก็ทำเอาหลายคนต่างรอดูว่าซีรีส์นี้จะมีอะไรใหม่บ้าง

ล่าสุดก็มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมมีประกาศราคาของ Mate 80 Series นี่คืออีกหนี่งซีรีส์ที่โดดเด่นเรื่องสเปกภายในที่ประสบความสำเร็จตีคู่มากับซีรีส์ Pura (เดิมคือ P-series) ที่เด่นเรื่องกล้อง

Mate 80 Series เปิดตัวออกมาทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Mate 80, Mate 80 Pro, Mate 80 Pro Max และรุ่นท็อปสุดอย่าง Mate 80 RS Ultimate Design

โดยมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ครั้งใหญ่จากเดิมที่ใช้จอโค้ง กลายมาเป็นจอแบน พร้อมขอบเครื่องที่ลบมุมโค้งมน ตามเทรนด์ปี 2025 ของสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ
ดีไซน์ของ Mate 80 Series ที่โดดเด่นที่สุดคือฝาหลัง โดยเฉพาะโมดูลกล้องวงกลมที่คุ้นเคยจาก Mate 40 แต่ได้รับการขัดเกลาขอบให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น จุดที่น่าสนใจคือการเพิ่มวงแหวนวงที่สองสำหรับขดลวดชาร์จไร้สาย ซึ่งเมื่อรวมกับวงแหวนกล้องแล้วจะมีลักษณะคล้ายเลข “8” สื่อถึงชื่อรุ่น

ในขณะดีไซน์ของ Mate 80 RS Ultimate Design จะยังคงเอกลักษณ์โมดูลกล้องทรงแปดเหลี่ยมที่ใช้กันมาในหลาย ๆ รุ่น พร้อมวัสดุฝาหลังเซรามิกที่มีลวดลายแกะสลัก โดยออกแบบให้รองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ IP69 ทนทานต่อแรงดันน้ำและอุณหภูมิสูง
หน้าจอของ Mate 80 Series ก็สว่างที่สุดในโลก ทั้ง 4 รุ่นมาพร้อมหน้าจอ OLED แบบแบน 2.5D ที่มีRefresh Rate แบบปรับได้ 1-120 Hz (LTPO) พร้อมเทคโนโลยี High-frequency PWM Dimming ถนอมสายตา บนหน้าจอมีการเจาะรู 3 ตำแหน่งสำหรับกล้องหน้าและเซนเซอร์สแกนใบหน้า 3 มิติ

โดย Mate 80 และ Mate 80 Pro มีขนาดหน้าจอ 6.75 นิ้ว ส่วนรุ่น Mate 80 Pro Max และ Mate 80 RS Ultimate Design ขยับขึ้นไปที่ 6.9 นิ้ว จุดเด่นสำคัญคือความสว่างหน้าจอที่ทำได้สูงสุดถึง 8,000 Nits ซึ่งถือเป็นหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สเปกของ Mate 80 Series จะแตกต่างกันในแต่ละรุ่น โดยในรุ่น Mate 80 ปกติจะใช้ชิป Kirin 9020 ส่วนรุ่น Mate 80 Pro ขึ้นไปจะใช้ชิป Kirin 9030 และ 9030 Proโดยมีการแบ่งรุ่นย่อยตามขนาด RAM
ซึ่งใน Mate 80 RS Ultimate Design ให้ RAM มาสูงสุดถึง 20 GB นับว่ามากที่สุดเท่าที่ HUAWEI เคยใส่มาในเรือธง

โดย HUAWEI ระบุตัวเลขประสิทธิภาพว่า Mate 80 มีความแรงเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mate 70 (Kirin 9010) ส่วน Mate 80 Pro Max แรงขึ้นถึง 42% กว่า Mate 70 Pro+ (Kirin 9020)

สเปกกล้องของ HUAWEI Mate 80 Series ก็มีการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี XMAGE และเซนเซอร์จับ Multi-spectral อย่าง Red Maple รุ่นที่ 2 ที่ให้สีสันสมจริง
- Mate 80 (รุ่นปกติ): กล้องหลัก 50MP, อัลตราไวด์ 40MP, เทเลโฟโต Periscope 12MP, กล้องจับ
- Mate 80 Pro: อัปเกรดเซนเซอร์หลัก 50MP มาเป็นขนาด 1/1.28 นิ้ว, อัลตร้าไวด์ 40MP และเลนส์ Dual-Periscope ที่ซูมได้คมชัดทั้งระยะ 4X และ 8X
- Mate 80 Pro Max / RS Ultimate Design : มาพร้อมเลนส์ Macro Telephoto 50MP และ Super Telephoto 50MP ที่รองรับ Optical Zoom ต่อเนื่อง 6.2x ถึง 12.4x
โดย HUAWEI Mate 80 Series ทุกรุ่นมาพร้อมรูรับแสงแบบปรับได้จริง (Physical Aperture) ช่วยให้ควบคุมความชัดลึกได้เหมือนกล้องโปร รวมถึงมี XMAGE ที่ช่วยประมวลผลในการถ่ายภาพ

แบตเตอรี่และการชาร์จของ HUAWEI Mate 80 Series จะมีขนาดใหญ่สุดถึง 6,000mAh ในรุ่น ProMax และ RS Ultimate Design ส่วนรุ่นปกติ Mate 80 และ Mate 80 Pro จะมีแบตฯ อยู่ที่ 5,750mAh รองรับชาร์จไวแบบมีสาย 100W และไร้สาย 80W พร้อมระบบแชร์แบตฯ ไร้สาย (Reverse Charging) 20W
ราคาของ HUAWEI Mate 80
- 12 GB + 256 GB ราคา 4,699 หยวน (ประมาณ 22,500 บาท)
- 12 GB + 512 GB ราคา 5,199 หยวน (ประมาณ 24,900 บาท)
- 16 GB + 512 GB ราคา 5,499 หยวน (ประมาณ 26,300 บาท)
ราคาของ HUAWEI Mate 80 Pro
- 12 GB + 256 GB ราคา 5,999 หยวน (ประมาณ 28,700 บาท)
- 12 GB + 512 GB ราคา 6,499 หยวน (ประมาณ 31,100 บาท)
- 16 GB + 512 GB ราคา 6,999 หยวน (ประมาณ 33,500 บาท)
- 16 GB + 1 TB ราคา 7,999 หยวน (ประมาณ 38,300 บาท)
ราคาของ HUAWEI Mate 80 Pro Max
- 16 GB + 512 GB ราคา 7,999 หยวน (ประมาณ 38,300 บาท)
- 16 GB + 1 TB ราคา 8,999 หยวน (ประมาณ 43,100 บาท)
ราคาของ HUAWEI Mate RS Ultimate Design
- 20 GB + 512 GB ราคา 11,999 หยวน (ประมาณ 57,500 บาท)
- 20 GB + 1 TB ราคา 12,999 หยวน (ประมาณ 62,300 บาท)

นอกจากนี้ภายในงานยังมีการเปิดตัว Mate X7 มือถือจอพับ 2 ทบที่มาพร้อมกับชิปเซตรุ่นใหม่ Kirin 9030 พร้อมกับแรมสูงสุด 20 GB กับความจุ 1 TB ในราคา 17,599 หยวน (ประมาณ 84,100 บาท) อีกด้วย