เมื่อรัฐบาลชุดใหม่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประกาศแผนปฏิรูปกองทัพเรือครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ Golden Fleet หรือกองเรือทองคำ โดยไฮไลต์สำคัญคือการนำเรือรบยักษ์กลับมาโลดแล่นในน่านน้ำอีกครั้ง ในชื่อ Trump-class battleship

ก่อนอื่นต้องพาทุกคนย้อนไปในศตวรรษที่ 20 เรือประจัญบาน คือราชาแห่งท้องทะเลที่เปลี่ยนโฉมหน้าสงครามโลก ด้วยขนาดที่ใหญ่มโหฬารและปืนใหญ่สุดจะเบิ้ม ๆ ได้แก่ Tirpitz, Bismarck, Yamato หรือ Prince of Wales ชื่อเหล่านี้ล้วนเป็นตำนาน ที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ยุคของเรือประจัญบานก็ดูเหมือนจะจบลงตามไปด้วย และได้พ่ายแพ้ให้กับกำลังทางอากาศ เครื่องบินรบนี้ สามารถจมเรือยักษ์เหล่านี้ได้จากระยะไกล ในขณะที่เรือบรรทุกเครื่องบินกลายเป็นหัวใจหลักแทน ทำให้กองทัพเรือทั่วโลกทยอยปลดประจำการเรือประจัญบาน จนเหลือเพียงสหรัฐฯ ที่ยังคงใช้งาน USS Missouri มาจนถึงปี 1992 ก่อนจะปลดเกษียณไปในที่สุด

ทีนี้การกลับมาในยุค Hard Power ที่สถานการณ์โลกปัจจุบัน ความขัดแย้งก็เริ่มปะทุ และคำว่า Hard Power หรือกำลังทหารที่เข้มแข็งกลับมามีความสำคัญอีกครั้งเช่นกัน 

ทำให้รัฐบาลทรัมป์จึงตัดสินใจรื้อฟื้นตำนานนี้ขึ้นมาใหม่ แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่ใช่การสร้างเรือแบบเดิมที่เน้นปืนใหญ่ยิงสู้กัน แต่มันคือ Guided Missile Battleship (BBG) หรือเรือประจัญบานติดขีปนาวุธนำวิถี

เจาะสเปก Trump-class เรือรบที่ยาวที่สุดที่เคยสร้างมา 

แม้ชื่อชั้นจะเป็นเรือประจัญบาน แต่ Trump-class มาพร้อมความทันสมัยที่แตกต่างจากรุ่นคุณปู่

  • ขนาด : แม้จะมีน้ำหนักระวางขับน้ำราว 35,000 ตัน (ซึ่งเบากว่าเรือในตำนานอย่าง Yamato ของญี่ปุ่นที่มีขนาด 65,000 ตันถึงครึ่งหนึ่ง) แต่เรือรุ่นนี้จะมีความยาวถึง 271 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นเรือประจัญบานที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา
  • ดีไซน์ : เน้นความเร็วมากกว่าเกราะหนา ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์หรือกังหันก๊าซ
  • ลูกเรือ : ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ใช้ลูกเรือเพียงแค่ 850 นายเท่านั้น

คลังแสงลอยน้ำ อาวุธสุดล้ำแห่งอนาคต ?

สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงคือ ‘เขี้ยวเล็บ’ ที่เรือลำนี้พกพามา เพราะมันไม่ได้มีดีแค่ปืนใหญ่ แต่ถูกออกแบบให้เป็นฐานยิงเคลื่อนที่ที่น่าเกรงขาม

  • ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic Missiles) : ติดตั้งท่อส่งสำหรับยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ Conventional Prompt Strike (CPS)
  • หัวรบนิวเคลียร์ รองรับขีปนาวุธร่อนที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ (SLCM-N) ได้ถึง 12 ลูก
  • VLS มีท่อยิงแนวดิ่ง (Vertical Launch System) ถึง 128 ช่องสำหรับขีปนาวุธหลากหลายชนิด
  • อาวุธแห่งอนาคต ติดตั้งปืนเลเซอร์พลังงานสูง และปืนแม่เหล็กไฟฟ้า (Railguns) สำหรับทั้งการโจมตีและการป้องกันตัว
  • ระยะทำการ ทางกองทัพเรือเคลมว่าเรือรุ่นนี้จะมีระยะยิงไกลกว่าเรือรุ่นก่อนถึง 80 เท่า !

เรือ Trump-class ลำนี้ถูกวางบทบาทให้เป็นหน่วยจู่โจมหลัก ไม่ว่าจะปฏิบัติการร่วมกับกองเรือบรรทุกเครื่องบิน หรือแยกตัวเป็นกองเรือผิวน้ำอิสระ เพื่อแสดงแสนยานุภาพและข่มขวัญคู่ต่อสู้

จอห์น ซี. ฟีแลน (John C. Phelan) เลขาธิการทหารเรือ ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า

ท่านประธานาธิบดี (ทรัมป์) ชัดเจนมากว่า เราต้องนำความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมทางทะเลอเมริกันกลับมา ต่อไปถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้น คำถามที่คุณจะถามเราจะมีอยู่ 2 อย่างนับจากนี้คือ เรือบรรทุกเครื่องบินอยู่ที่ไหน และเรือประจัญบานอยู่ที่ไหน