ภายในปี 2025 ที่ผ่านมา เราเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพ ธุรกิจ และเทคโนโลยี ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแค่การปรับตัว อาจยังไม่พออีกต่อไป
แล้วปี 2026 ล่ะ โลกจะหมุนไปในทิศทางไหน ? BT beartai จะพาคุณไปสำรวจ Mega Trend แห่งปี 2026 ที่คุณต้องรู้ ถ้าไม่อยากตกขบวน
1. วิกฤตโลกเดือดที่รอไม่ได้
วิกฤตโลกร้อนที่ทวีความรุนแรง จากตัวเลขการปล่อยคาร์บอนทั่วโลกที่พุ่งแตะ 37.79 พันล้านตันในปี 2024 ทำให้การรักษ์โลกไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์หรือคำพูดสวยหรูอีกต่อไป เรื่องของความยั่งยืนจึงไม่ใช่แค่ทางเลือกหรือกิจกรรม CSR สำหรับธุรกิจ
โดย International Energy Agency (IEA) รายงานว่า ภายในปี 2030 การลงทุนในพลังงานสะอาดจะมีมูลค่ามากถึง 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ การเติบโตของอุตสาหกรรม พลังงานหมุนเวียน รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Carbon Capture มีการกำหนดนโยบายและกฎหมายควบคุมการปล่อยคาร์บอน ที่กลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่บีบให้ธุรกิจทั่วโลกต้องเร่งเครื่องมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero) อย่างจริงจัง
2. ก้าวสู่สังคมสูงวัยและการขยายตัวของเมืองใหญ่
ภายในปี 2030 ประชากรผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไปจะมีมากถึง 265 ล้านคน แซงหน้าประชากรเด็กเกิดใหม่ที่มีแนวโน้มลดลง ทำให้เศรษฐกิจผู้สูงวัยในเอเชียแปซิฟิกเติบโตขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรม Healthcare และ Senior Care เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะเกษียณช้าขึ้น จากภาระค่าใช้จ่าย
ในขณะเดียวกัน ผู้คนจะหลั่งไหลเข้าสู่เมืองมากขึ้น คาดว่าสัดส่วนคนเมืองจะเพิ่มจาก 55% เป็น 68% ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้คนในบางพื้นที่ลดน้อยลง อีกทั้งมลพิษจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งภายในปี 2050 เป้าหมายหลักคือการขยายเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประชากรมากขึ้น เป็นโอกาสทองของธุรกิจ Smart City และนวัตกรรมการก่อสร้างรักษ์โลก
3. เมื่อคนและ AI คือทีมเดียวกัน
จากปี 2025 ปรากฏการณ์ Layoffs พนักงานสายเทคฯ เป็นจำนวนมากที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับตัวเลขการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างก้าวกระโดด นี่ไม่ใช่สัญญาณของความถดถอย แต่คือการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค Industry 5.0 ที่เน้นการทำงานร่วมกันของคนและ AI เกิดการอัปสกิลใหม่ ๆ เทคโนโลยี 5G และ IoT จะกลายเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเติบโตเฉลี่ยปีละ 18% ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2030 นั่นหมายความว่าปริมาณข้อมูลจะหลั่งไหลเข้ามามหาศาล องค์กรจะใช้ AI มาวิเคราะห์มากขึ้นและพัฒนาระบบ Cloud Computing เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
4. ยุคแห่ง EV และการบริการเช่าเติบโตพุ่งสูง
รถยนต์ไฟฟ้า EV กำลังเร่งเครื่องแซงทางโค้ง คาดว่ายอดขาย EV จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในปี 2025 ยอดขายรถ EV ทั่วโลกทะลุ 20 ล้านคัน คิดเป็น 1 ใน 4 ของรถใหม่ที่ขายได้ทั้งหมด นอกจากนี้เทรนด์ “การเช่า” กำลังมาแรง ผู้บริโภคไม่ได้มองรถยนต์เป็นเพียงทรัพย์สินแต่คือบริการ ทำให้ตลาดเช่าเติบโตสูงขึ้น ธุรกิจยานยนต์และประกันภัยต้องเร่งปรับโมเดลธุรกิจรองรับไลฟ์สไตล์การเดินทางที่เปลี่ยนไปแบบด่วน ๆ
5. เดินหน้าสู่การดูแลสุขภาพเชิงรุก
เทรนด์ดูแลสุขภาพยังคงโตอย่างต่อเนื่อง จากปี 2025 เราเห็นแล้วว่า เทรนด์ Longevity กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญ ทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เทคโนโลยีด้านสุขภาพแบบส่วมใส่ AI วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ และการให้บริการด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการบริการเฉพาะบุคคล จะดันให้เศรษฐกิจ Wellness เติบโตขึ้น
6. อาชญากรรมไซเบอร์ยังคงน่ากลัว
ความเสียหายจากอาชญากรรมไซเบอร์ที่พุ่งสูงขึ้น ราว ๆ 10.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ไม่ใช่แค่ Ransomware เรียกค่าไถ่แบบเดิม แต่เป็นการใช้ AI และ Deepfakes หลอกโอนเงินระดับองค์กร ความมั่นคงด้านความปลอดภัย จึงไม่ใช่หน้าที่ของฝ่าย IT Support อีกต่อไป แต่เป็นวาระดับชาติและระหว่างประเทศที่ต้องเฝ้าระวัง
7. การเปลี่ยนแปลงอำนาจและความไม่มั่นคง
ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีที่เปลี่ยน แต่มีแนวโน้มที่ประชาชนจะต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลง ความผันผวนทางการเมือง เศรษฐกิจ การตั้งกำแพงภาษี ประเทศหรือกลุ่มธุรกิจที่กุมทรัพยากรและเทคโนโลยีจะมั่งคั่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในขณะที่ประชาชนรากหญ้าต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากความผันผวนของราคาพลังงานและสินค้า
ภาพรวม Mega Trends ปี 2026 กำลังนำโลกไปสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ผู้ที่ยังยึดติดกับความสำเร็จเดิม ๆ อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่สำหรับผู้ที่ปรับตัวได้ไวที่สุด และมองเห็นโอกาสในวิกฤติได้ก่อนใคร สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นแต้มต่อสำคัญ ที่ช่วยให้คุณเติบโตท่ามกลางความท้าทายได้อย่างยั่งยืน