นิตยสารดัง Forbes Asia ได้มอบตำแหน่งนักธุรกิจดีเด่นแห่งปี 2014 ให้กับ Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi หลังจากเนรมิตแบรนด์มือถือจีนให้โด่งดังก้าวกระโดดเพียงชั่วข้ามคืน

แม้ว่า Xiaomi  จะยังไม่ได้เข้าตลาดยุโรปและอเมริกา แต่ก็เป็นแบรนด์ระดับแนวหน้าของเอเชียไปแล้ว โดยผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดของตลาดสมาร์ทโฟนในจีนก็สามารถเอาชนะแบรนด์เก๋ากว่าอย่าง Lenovo คว้าส่วนแบ่งการตลาดคำโตของประเทศได้อย่างเซอร์ไพรส์ ซึ่ง Tim Ferguson บรรณาธิการจาก Forbes Asia นั้นมองว่า Lei Jun ซีอีโอหนุ่มใหญ่วัย 45 ปีนั้นสมควรได้รับเครดิตอย่างมาก เมื่อมองจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ถือได้ว่าปี 2014 เป็นปีที่บริษัทใหม่ๆ มีช่องทางสร้างรายได้เติบโตให้กับบริษัทผ่านรูปแบบออนไลน์มากมายในเอเชีย แต่ไม่มีใครโดดเด่นเกิน Xiaomi อีกแล้ว

ทั้งนี้ Xiaomi หรือในความหมายของ ‘ข้าวฟ่าง’ ในภาษาจีน (อ่าน เสี่ยวมี่ หรือ ฉาวมี่) นั้น เพิ่งจะก่อร่างสร้างตัวมาเพียง 4 ปีเศษ แต่ปัจจุบันกลับพัฒนาตัวเองจนเป็นแบรนด์ที่คาดว่าจะกลายเป็นคู่แข่งรายใหญ่ของทั้ง Apple และ Samsung ในอีกไม่นาน ซึ่ง Lei เองได้เผยว่าเขาทำงานหนักกว่าร้อยชั่วโมงต่อสัปดาห์ และต้องการทำบริษัทให้ไปถึงระดับโลกให้ได้

‘สิ่งสำคัญที่สุดคือโฟกัสและจดจ่อกับมัน สมมติหากบริษัทมีหุ้น IPO เข้าตลาดไปวันนี้ ใครถือหุ้นเราก็รวย เพราะบริษัทเรามองแต่จะเติบโตให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ’ Lei Jun เปิดมุมมองของเขากับ Forbes

‘ผมเชื่อว่า ย้อนกลับไปสักสามปีที่แล้ว มันไม่มีใครคิดหรอก ว่า Xiaomi จะมาถึงตรงนี้ได้ และเรายังมองไปถึงการเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดโลกเหนือสองแบรนด์ข้างหน้าเราภายใน 5-10 ปีนี้ด้วย’

นอกจากนี้ ยังมีสื่อที่มักจะจับ Lei Jun กับ Steve Jobs มาเปรียบเทียบกันในฐานะที่ Xiaomi มักจะถูกมองว่าเป็น ‘Apple โคลนนิ่ง’ อยู่เสมอ ซึ่ง Lei ก็ออกมาปฏิเสธพร้อมระบุว่า ทั้งสองแบรนด์แตกต่างกัน โดยเขามองว่า Apple คิดภาพที่ผู้บริโภคต้องการก่อนจะทำโปรดักส์ ในขณะที่ Xiaomi นั้นโฟกัสที่ พยายามสร้างผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวออกมาแล้วต้องสร้างอิมแพ็คได้ ผู้คนต้องหันมามอง ในขณะที่ รายได้ยอดขาย กำไรหรือส่วนแบ่งการตลาด เป็นเรื่องรองลงไป

ที่มา : ibtimes