สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ยังมีอีกหลายแง่มุมในสงครามระหว่างมวลมนุษยชาติและเจ้าเชื้อโรคร้ายอุบัติใหม่ชนิดนี้ ซึ่งในวิกฤติการณ์ครั้งสำคัญที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องรับมือและเผชิญหน้ากันต่อไป Beartai และ What the Fact ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของ “ร่องรอยแห่งความเสียสละ: เมื่อหนังสือพิมพ์จีนถ่ายภาพคุณหมอจาก “แนวหน้า” ในสงครามเชื้อโควิด-19” ไปก่อนหน้านี้

ด้วยความที่พื้นที่รุนแรงที่สุดของสถานการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน ซึ่งไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทำให้แง่มุมต่าง ๆ ไม่ได้ถูกนำมาเผยแพร่เป็นวงกว้างเทียบเท่ากับข่าวที่มาจากสำนักข่าวในฝั่งตะวันตก บทความชิ้นนี้ขอนำเสนอเรื่องราวในอีกหลายมุมเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในประเทศจีน ที่ถ้าหากนำมาทำเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ ก็คงนำเสนอกันไปได้อีกหลายเรื่องหลายตอน (ขอบคุณคลิปวิดีโอที่บอกเล่าเรื่องราวจาก bilibili.com เว็บไซต์จากประเทศจีน และ Fanpage OKLS Chinese and Japanese สำหรับข้อความแปลภาษาจีนและการนำเรื่องราวดี ๆ นี้ มาเผยแพร่ทางออนไลน์)

พยาบาลใช้วิธีการวาด “เมนูคำ” เพื่อสื่อสารกับผู้ป่วย Covid-19 ที่อาการหนัก

 

ในภาพยนตร์หรือละครหลายเรื่อง อาจจะเคยเห็นการสื่อสารระหว่างแพทย์และพยาบาลผู้รักษาหรือครอบครัว กับผู้ป่วยที่ไม่อาจสื่อสารได้ผ่านทางการพูดคุย ด้วยวิธีการเขียนข้อความหรือวาดภาพลงบนกระดาษ สถานการณ์นั้นได้เกิดขึ้นจริงอีกครั้งกับการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหนักของ Covid-19 ในคลิปวิดีโอที่ปรากฎนี้

“ฉินยี่ว์ซี” พยาบาลประจำทีมแพทย์จากมณฑลเจียงซี ได้กลับไปใช้วิธีดั้งเดิมในการสื่อสารกับผู้ป่วยหนัก ด้วยวิธีที่ผู้ป่วยง่าย ๆ โดยการวาดภาพแล้วให้ผู้ป่วยชี้ เพื่อบอกความต้องการหรือความรู้สึก อุปสรรคอีกอย่างหนึ่งนอกจากวิธีการสื่อสารที่ลำบากขึ้นของผู้ป่วยแล้ว ภาษาถิ่นของชาวอู่ฮั่นที่แตกต่างจากภาษาจีนกลางทั่วไป ก็ทำให้แพทย์และพยาบาลจากเมืองอื่นในจีนเข้าใจคำพูดได้ยากขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง โดยพยาบาลฉินยี่ว์ซีจะเขียน “เมนูคำ” ที่สื่อสารกับผู้ป่วยบ่อย ๆ ไว้เช่นคำว่า 9 คำในเมนูรวบรวมจากคำที่สื่อสารกับผู้ป่วยบ่อยๆ ได้แก่ หนาว กินข้าว ปรับเตียง อึดอัด กระหายน้ำ แน่นหน้าอก ปวดอุจจาระ ปวดเมื่อย ช่วยพลิกตัว

“…บางครั้งคนไข้มีความต้องการบางอย่างเช่น อยากให้ดูดเสมหะ บางครั้งอยากดื่มน้ำ แต่ก็สื่อสารกันไม่เข้าใจ การมีเมนูช่วยลดอุปสรรคของการสื่อสารได้มาก ทั้งหมดรวบรวมจากงานที่ทำประจำ แค่เพียงลืมตา ก็ทำให้เข้าใจคนไข้ได้ โดยเฉพาะพวกเราที่มาจากต่างเมือง ไม่เข้าใจภาษาถิ่นของอู่ฮั่น ฉันก็เลยวาดภาพพวกนี้ขึ้นมา…” พยาบาลฉินยี่ว์ซีกล่าว

แม่ที่เป็นหมอวิดีโอคอลหาลูกเพื่อสอนฉีดยาเองให้ตัวเอง ขณะพ่อแม่ไปเป็นแนวหน้าสู้ศึก Covid-19

 

ลูกสาววัย 11 ขวบของตำรวจ “อู๋ ซู เจี้ยน” ผู้เป็นพ่อและแม่ของเธอที่ทำหน้าที่เป็นหมอ ต้องฉีดยาให้กับตัวเอง “หนูต้องฉีดยาเองนะลูก ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดฆ่าเชื้อบริเวณจุกยางของขวดยา แล้วสูบยาเข้าไปให้ถึงเลข 24 หน่วย” หมอซึ่งเป็นคุณแม่บอกกับลูกผ่านเสียงและภาพทางโทรศัพท์ คุณพ่อที่ต้องทำหน้าที่ลาดตระเวนบนถนนมากกว่า 300 กิโลเมตร และภรรยาที่อาสาไปที่ศูนย์กลางการควบคุมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดยังกล่าวเพิ่มเติมในคลิปรายงานนี้อีกว่า ตอนเกิดเหตุการณ์มีโทรศัพท์เข้ามา ภรรยาต้องรีบเก็บกระเป๋าเพื่อไปที่แนวหน้าต่อสู้กับโรคระบาด ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลาครึ่งเดือน และเธอก็ต้องเตรียมยาเอาไว้ให้ลูกสาวตัวน้อย และสอนให้เรียนรู้การฉีดยาด้วยตัวเอง

“…ลูกสาวผมต้องฉีดโกรวธ์ฮอร์โมนทุกวัน งานของพวกเราทั้งคู่ตอนนี้ คุณแม่ไม่ได้กลับบ้านอีกนาน ส่วนผมก็จะได้กลับบ้านทุก 4 วัน ลูกสาวจึงต้องหัดเรียนรู้การฉีดยาด้วยตัวเอง ก่อนที่พวกเราจะออกไปจะเตรียมยาไว้ให้พร้อมส่วนวิธีการฉีดยา พวกเราสอนไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว ลูกสาวก็เข้าใจสถานการณ์ของพวกเรา เธอเสียใจที่ไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวปักกิ่งได้แล้ว เมื่อเรื่องทุกอย่างจบหลง ผมจะพาไปท่องเที่ยวเป็นการชดเชย…” นายตำรวจอู๋ ซู เจี๋ยน กล่าว

ลูกสาว ป.4 ทำกับข้าวไปส่งพ่อแม่คนขับรถเมล์ทุกวัน เพราะร้านอาหารปิดหมด

 

ภายใต้สถานการณ์นี้ก็ยังมีอีกมุมหนึ่งของชีวิตผู้คนที่ได้รับผลกระทบ นั้นคือการหยุดให้บริการของร้านค้าและร้านอาหารซึ่งทำให้การหาอาหารทานตามวิถีชีวิตตามปกติแทบเป็นไปไม่ได้ เด็กสาววัย 10 ขวบที่อยู่ชั้น ป.4 ภายในคลิปนี้จึงมีหน้าที่ทำกับข้าวมื้อกลางวันไปส่งให้พ่อกับแม่ที่ประกอบอาชีพคนขับรถเมล์

“…พ่อแม่ของหนูเป็นคนขับรถเมล์ ตอนกลางคืนถึงจะกลับมา ส่วนตัวหนูเองอยู่บ้านค่ะ ตอนเที่ยงหนูทำอาหารเองหลังจากที่หนูกินเสร็จแล้ว หนูจะห่อข้าวไปส่งให้พ่อกับแม่ ยิ่งในตอนนี้พ่อกับแม่ทำงานยุ่งมาก ลำบากมาก หนูเดินเอาข้าวไปให้พ่อกับแม่ได้ไม่ยาก ประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้ว…”

“ร้องไห้ ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้หรอกนะ!” พี่ชายบอกน้องชายให้หยุดร้องไห้ ขณะที่คุณแม่ไปช่วยรักษาผู้ป่วย

 

พี่ชาย: “ตอนนี้แม่ทำงานยุ่งมาก รักษาโรคหวัด มีคนเป็นหวัดมากมาย นายรู้ไหม?”

น้องชาย: “แต่หนูยังเด็กอยู่…” และร้องไห้ต่ออีกครั้ง

พี่ชาย: “ร้องไห้ ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้หรอกนะ แม่ไม่ได้นอนกับนายแล้วไง พ่อ ยาย ตา พวกเราก็นอนกับนายได้นะ”

น้องชาย: “หนูอยากให้แม่กลับมา…”

พี่ชาย: “ไม่ใช่แค่แม่ของเราที่ลำบากที่สุดในโลก ทุกคนที่สู้เรื่องนี้ก็ลำบากเหมือนกันทุกคน”

“…ในเวลานั้นรู้สึกสะเทือนใจมาก ฉันรู้สึกตัวเองเป็นแม่ที่ไม่ดี แต่ฉันก็อุ่นใจที่ลูก ๆ พยายามจะเข้าใจฉัน เห็นฉันเป็นแบบอย่างของความเสียสละและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่พวกเขาได้ ฉันมีความสุข และรู้สึกโล่งใจมากขึ้น…” คุณแม่ของเด็กชายทั้งสอง ซึ่งทำหน้าที่เป็น พยาบาลห้องฉุกเฉิน กองกำลังชั้นที่ 2 ที่อยู่แนวหน้าของสถานการณ์ Covid-19 ระบาดหนักมาตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมจนถึงทุกวันนี้

Beartai และ What The Fact ร่วมส่งกำลังใจให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้เสียสละทุกคน ไม่ว่าจะในประเทศจีน หรือประเทศไทย ให้ร่วมกันผ่านพ้นภัยพิบัติของมวลมนุษยชาติครั้งนี้ร่วมกันไปให้ได้

อ้างอิงภาพ

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส