หนังสือที่ เต – ตะวันแนะนำ

หลายคนอาจรู้จัก ‘เต-ตะวัน วิหครัตน์’ ในฐานะพิธีกรรายการ Five Live Fresh และนักแสดงในบทบาท ‘พีท’ ใน ‘Kiss the Series รักต้องจูบ’ และล่าสุดรับบท ทีโด๊ ในซีรีส์ ‘คนละทีเดียวกัน I’m Tee, Me Too’ ที่กำลังจะออนแอร์ 18 กันยายนนี้ อีกทั้งยังเป็นดาราที่แอคทีฟในทวิตเตอร์ด้วย Followers ถึง 1.3 ล้านคนอีกด้วย

นอกจากความสามารถการเป็นพิธีกรและแสดง  พร้อมพ่วงตำแหน่งเจ้าพ่อคำคมในโลกทวิตเตอร์แล้ว หนุ่มเต ยังมีโลกอีกใบที่ได้เผยให้แฟน ๆ ได้รู้จักผ่านเพจ “TKpark อุทยานการเรียนรู้” ในงาน ‘MY LIFE, MY BOOKS หนังสือที่ใช่ของ เต-ตะวัน’  ในหนังสือ 12 เล่มที่เต็มไปด้วยการผจญภัย ปรัชญาพุทธศาสนา จนไปถึงเทพนิยายกรีกที่เป็นบ่อเกิดของนิยายและหนังที่เราเสพกันในปัจจุบัน

  1. ปกรณัมปรัมปรา

“ปกรณัมปรัมปรา” หนังสือคลาสสิกที่รวบรวมตำนานนิยายกรีก โรมัน และนอร์ส รากเหง้าด้านวัฒนธรรมและปรัชญาจากโลกตะวันตกที่มีอิทธิพลต่อศิลปะ วรรณกรรมและภาพยนตร์ในโลกปัจจุบัน เรียบเรียงโดย นักวิชาการชาวอเมริกัน เอดิธ แฮมิลตัน ผู้ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ปกรณัมอันดับต้น ๆ ของโลก และถือว่าเป็นหนังสือที่ขึ้นหิ้ง ‘ต้องอ่าน’ ด้วยเนื้อหาที่ครอบคลุมตำนานเหล่าเทพโอลิมปัส วีรบุรุษกรีก หรือนิราศมหากาพย์ อย่าง โอดิสซีย์ ที่ถูกแบ่งเป็น 24 ตอน ตลอดจนตำนานของชาวนอร์ส เรียกได้ว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ชื่นชอบงานวรรณกรรมและเรื่องราวเกี่ยวกับเทพปรกรณัม และผู้ที่สนใจสายปรัชญา มานุษยวิทยา และสังคมศึกษาด้วย

  1. What if? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า…

ไอเดียหนังสือ Best Seller เล่มนี้เกิดจากในวัยเด็กผู้เขียนมักตั้งคำถามสมมติที่ชวนให้คุณแม่ปวดหัว จนต่อมาเกิดแรงบันดาลใจ โดยให้เหตุผลว่า “การตอบคำถามที่ฟังดูตลกอาจจะทำให้พาเราไปพบกับความรู้ใหม่ ๆที่น่าสนใจ” เล่มนี้รวบรวมคำถามสุดแปลก หลุดโลก และเต็มไปด้วยจินตนาการ ที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำตอบทางวิทยาศาสตร์ที่ทั้งอธิบายคลายความสงสัยและอารมณ์ขัน เป็นการส่งต่อคำถามจากคนธรรมดาไปให้นักวิทยศาสตร์ที่ห้ามพลาด

  1. The Picture of Dorian Gray

นิยายโกธิคแนวจิตวิทยาที่พูดถึงลัทธิสุขนิยมที่ตีพิมพ์ออกมาในปี 1890 ที่ถือว่าเป็นงานที่ฉาวโฉ่สุด ๆ  ในยุคสมัยนั้น โดยต้นฉบับแรกที่ตีพิมพ์ถูกทีมบก.หนังสือพิมพ์แอบดัดแปลง แต่ถึงถูกตัดออกบางส่วน ก็ยังไม่วายรอดพ้นการถูกดราม่าจากเหล่าผู้ดีอังกฤษ เนื่องจากเนื้อหาที่รุนแรง และความ Narcissism ของตัวเอกที่ย้อนมาทำลายคนรอบตัว แต่เรื่องราวก็สะท้อนอีกหลายแง่มุมในศตวรรษนั้น ทั้งเกี่ยวกับสังคมยุคนั้น ทั้งสิทธิเสรีภาพ สังคม ศิลปวัฒนธรรม โครงสร้างทางสังคม อีกทั้งตัวผู้เขียนเองอย่างออสการ์ ไวลด์ ก็เป็นตัวแทนของ LGBT ซึ่งมันถือเป็นเรื่องอื้อฉาวและผิดกฎหมายสมัยนั้น 

  1. เพชรพระอุมา

นวนิยายแนวผจญภัยที่นับว่าเป็นนวนิยายที่มีความยาวมากที่สุดในโลก “เพชรพระอุมา” คือบทประพันธ์ของ พนมเทียน ซึ่งแรกเริ่มได้ตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ และตีพิมพ์ต่อเนื่องในหนังสือพิมพ์รายวัน ใช้ระยะเวลาในการประพันธ์ยาวนานกว่า 25 ปี เค้าโครงเรื่องมาจาก คิงโซโลมอนส์ไมนส์  หรือ สมบัติพระศุลี นวนิยายผจญภัยลี้ลับในทวีปแอฟริกาของ เซอร์เฮนรี ไรเดอร์ แฮกการ์ด 

  1. The Old Man and the Sea

นวนิยายขนาดสั้นของ เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ นักเขียนรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ประจำปี ค.ศ. 1954 “The Old Man and the Sea” เล่าเรื่องราวเกี่ยวการต่อสู้ระหว่างธรรมชาติอันยิ่งใหญ่กับชาวประมงสูงวัยในประเทศคิวบาที่ตัดสินใจออกเรือเพื่อไปหาปลาเพียงลำพังในมหาสมุทร สะท้อนภาพการต่อสู้กับชะตากรรมของมนุษย์ที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อปัญหา

  1. มิตรภาพต่างสายพันธุ์

“มิตรภาพต่างสายพันธุ์” เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตในธรรมชาติของช่างภาพสัตว์ป่าที่เข้าไปถ่ายภาพในป่า 15 วัน มาเล่าในมุมของคนที่อุทิศตนเพื่อทำงานที่รัก บรรยายวิถีชีวิตที่หลากหลายของสัตว์ป่า ความงดงามของธรรมชาติ ความสัมพันธ์ที่ลงตัวระหว่างคนและธรรมชาติ บันทึกโดย ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ นักถ่ายภาพสัตว์ป่าชั้นครูของประเทศไทย

  1. คติพจน์บุคคลสำคัญ และสุภาษิตนานาชาติ

หนังสือรวบรวมคำคมข้อคิดจากบุคคลสำคัญระดับโลกที่ผ่านประสบการณ์ชีวิต ฝากข้อคิดเกี่ยวกับความสำเร็จและความล้มเหลวที่เจอที่พิสูจน์จากเหตุการณ์จริงของชีวิตเจ้าของคติพจน์ให้คนรุ่นต่อไปได้อ่านและนำมาเป็นแรงบันดาลใจต่อไป

  1. Who Moved My Cheese?

เล่มนี้นำเสนอแนวคิดของ นักจิตวิทยาชื่อดัง สเปนเซอร์ จอห์นสัน ที่กล่าวถึงแง่มุมของคนที่ใช้ชีวิตอย่างยึดติด เปรียบเทียบดังหนูที่ออกไปตามหาชีสในเขาวงกต โดยอยากให้ผู้อ่านเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นในชีวิตเราได้ทุกขณะ แม้เรามักเผลอว่าสิ่งที่มีอยู่ด้วยความเคยชินคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ทำให้หลายคนมักเกิดอาการต่อต้านหรือไม่สบายใจเมื่อมีสิ่งใหม่ๆเข้ามา และเมื่อเราไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เข้ามา เราจะรู้ได้ยังไงว่า ชีสชิ้นเดิมที่เราว่าอร่อยที่สุด จริง ๆ แล้วอาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่แค่ไม่ยอมเปิดใจลองกินชีสอื่น ๆ เท่านั้นเอง 

  1. 1984

“1984” ผลงานขึ้นหิ้งตลอดกาลนักข่าวสายการเมือง  George Orwell ที่ผันปากกามาเขียนนวนิยายตีแผ่สังคมการเมืองออกมาหลายเล่ม แต่เล่มที่เป็นตำนานคือเล่มนี้ ที่กล่าวถึงโลกสมมุติในอนาคตที่โลกอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลโลกที่มาพร้อมสโลแกนชวนขนลุกอย่าง “Big Brother is watching you”

  1. แก่นพุทธศาสน์

เล่มนี้เป็นการถอดเทปของ ท่านพุทธทาสภิกขุ 3 ครั้ง ณ ชุมนุมศึกษาพุทธธรรม ตามการนิมนต์ของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2504, 7 มกราคม พ.ศ. 2505 และ 21 มกราคม พ.ศ. 2505 ที่จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจแก่นที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา

  1. Sapiens

หนังสือที่บอกเล่าความเป็นมาสุดพิเศษของมนุษย์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นลิงไร้หาง ล่าสัตว์ การย้ายถิ่นฐานของ Homo Sapien ไปแผ่กระจายไปทุกทิศของโลก และการปฎิวัติการรู้ที่เกิดเมื่อ 70,000 ปีก่อน ที่เป็นจุดหักเหที่ทำให้สัตว์สองขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้ล่าที่สูงสุดในห่วงโซ่อาหาร เล่มนี้จะทำให้เราเข้าใจว่ามนุษยชาติมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร คำถามที่ดูแสนจะธรรมดา แต่ต้องย้อนไปหาคำตอบในจุดเริ่มต้น

  1.  One Piece

มังงะญี่ปุ่นที่แฟน ๆ ทั่วโลกติดตามที่ยังไม่มีท่าทีจะอวสานและยังเป็นมังงะที่มีการตีพิมพ์มากที่สุดในโลก เขียนโดย เออิจิโระ โอดะ ว่าด้วยเรื่องราวของการตามหา “One Piece” สมบัติปริศนาที่ผู้ที่ได้มาครอบครองจะได้เป็นเจ้าแห่งโจรสลัด เริ่มลงตีพิมพ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 และเนื่องจากความโด่งดัง วันพีซ จึงได้รับการดัดแปลงเป็น อนิเมะ นวนิยาย รวมไปถึง เกม อีกหลายภาคด้วยกัน

พบกับกิจกรรมออนไลน์แบบใกล้ชิดติดขอบจอทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00 น. ตลอดเดือนกันยายนนี้ ทางแฟนเพจ Facebook: TKpark อุทยานการเรียนรู้

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563 เวลา 14.00 น.

ตะลุยพาเลือกหนังสือในดวงใจของ เต-ตะวัน วิหครัตน์ จะมีเล่มไหนตรงใจคุณบ้าง ต้องมาลุ้นหน้าจอด้วยกัน

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2563 เวลา 14.00 น.

อ่านเองว่าอินแล้ว แต่ถ้าให้เต-ตะวันอ่านให้ จะอินกว่าแค่ไหน ขอเลือก 1 เล่ม และท่อนสำคัญฝังใจมาอ่านให้ฟัง พร้อมกับการตีความบทนี้

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563 เวลา 14.00 น.

ร่วมชมบันทึกสนทนาล้อมวงคุย Book Club หนังสือเล่มโปรดลงลึกกันแบบเต็มๆ  ให้รู้จักตัวตนผ่านหนังสือเล่มโปรดของเขามากยิ่งขึ้น            

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส