อัปเดตข้อมูลเพิ่มเติม (27 พ.ย.): มีรายงานเพิ่มเติมจากสื่อ Daily Mail ว่า แม้ว่าทางการจะไม่เปิดเผยข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งของแท่งโลหะนี้ เพราะกลัวว่าจะมีนักท่องเที่ยวแห่กันเข้ามาเยี่ยมชมจำนวนมาก แต่ก็มีคนค้นหาใน Google Earth จนเจอในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ว่า แท่งโลหะตั้งอยู่ประมาณ 6 ไมล์ (9.7 กิโลเมตร) จากถนนที่ใกล้ที่สุดของรัฐยูทาห์ แถมยังระบุด้วยว่า น่าจะถูกติตตั้งไว้ในช่วงระหว่างปี 2015 – 2016 ซึ่งขัดแย้งกับความเห็นของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่คาดการณ์ว่า น่าจะอยู่ตรงนั้นมาราว 40-50 ปี

และยังมีผู้ที่สนใจงานศิลปะและการนำประติมากรรมไปตั้งตามสถานที่ทางธรมชาตลักษณะนี้ให้ความเห็นว่า ลักษณะของแท่งโลหะประหลาดนี้คล้ายกับงานศิลปะของ John McCracken ศิลปินชาวอเมริกัน ที่เคยใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในรัฐนิวเม็กซิโก (ใกล้กับรัฐยูทาห์) และเสียชีวิตไปในปี 2011 เขามีชื่อเสียงเป็นจากงานประติมากรรมรูปทรงต่าง ๆ เช่น ทรงปีรามิด ทรงลูกบาศก์ หรือแท่งเหลี่ยม

โดยเจ้าแท่งโลหะประหลาดที่ถูกพบล่าสุดนี้มีรูปทรงคล้ายกับงานประติมากรรมของ McCracken ที่ตั้งแสดงอยู่ที่หอศิลปะ David Zwirner ในเมืองนิวยอร์ก ซึ่งความเห็นของผู้เชี่ยวชาญของหอศิลปะแห่งนี้ก็ให้ความเห็นแตกกันไปคนละทาง เพราะทีแรกทางโฆษกของหอศิลป์ได้บอกว่า ไม่น่าใช่ผลงานของ McCracken แต่น่าจะเป็นของศิลปินคนใดคนหนึ่งที่ทำขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเขามากกว่า แต่ในเวลาต่อมา David Zwirner เอง กลับให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าแท่งโลหะนี้ต้องเป็นผลงานศิลปะของ McCracken แน่นอน และยังให้ความเห็นว่า มันน่าจะถูกทิ้งไว้กลางทะเลทรายนานกว่าทศวรรษแล้วด้วย

อ้างอิง

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กองทรัพยากรสัตว์ป่าจากรัฐยูทาห์ในสหรัฐฯ ซึ่งออกปฏิบัติภารกิจบินเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ในทะเลทรายตามปกติ ได้สังเกตเห็นวัตถุประหลาดทรงสี่เหลี่ยมที่มีลักษณะแวววาวมาเข้าตานักสำรวจคนหนึ่ง จนพวกเขาต้องเอาเฮลิคอปเตอร์ลงจอดเพื่อไปสำรวจดู และพบว่าเจ้าแท่งโลหะนี้มีลักษณะเหมือนแท่งสีดำจากภาพยนตร์ 2001: A Space Odyssey (1968)

https://twitter.com/AndrewAdamsKSL/status/1330191662518312962?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1330191662518312962%7Ctwgr%5E%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.dailymail.co.uk%2Fsciencetech%2Farticle-8978349%2FWildlife-officials-discover-mysterious-12-foot-tall-metal-monolith-middle-Utah-desert.html
https://twitter.com/GlbBreakNews/status/1331305216159977478

ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่เคยได้ชมหนังไซไฟอวกาศของผู้กำกับ Stanley Kubrick และนักเขียนในตำนาน Arthur C. Clarke ทันที เพราะว่าในหนังเรื่องนั้นแท่งสี่เหลี่ยมสีดำถูกวางไว้ในฉากที่เต็มไปด้วยมนุษย์วานร เพื่อจะสื่อสารว่าสิ่งทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวหรือเอเลี่ยนอาจนำแท่งสีดำนี้มาวางเอาไว้และใช้สิ่งนี้เป็นวิทยาการเริ่มต้นของมวลมนุษย์ (ทำนองเดียวกับการทำให้มนุษย์วานรรู้จักกับการใช้ไฟ)

แท่งหินทรงสี่เหลี่ยมเป็นโลหะสีเงินแวววาวสามด้าน สูงประมาณ 10-12 ฟุต (3-3.65 เมตร) ตั้งตระหง่านอยู่กลางพื้นดินท่ามกลางหุบเขาหินสีแดง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่า คงจะมีฝีมือของศิลปินที่เป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่องที่ว่า และแอบนำมาตั้งทิ้งไว้ในหุบเขาแห่งนี้มากกว่าจะเป็นฝีมือของเอเลียนหรือสิ่งเร้นลับที่ไหน (แต่เจ้าหน้าที่ก็แซวกันเองว่า ถ้ามีใครคนได้คนหนึ่งที่ไปยืนใกล้แท่งโลหะแล้วเกิดหายตัวไปเหมือนในภาพยนตร์ ที่เหลือก็คงต้องวิ่งหนีเหมือนกัน)

ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ฝากย้ำว่า การติดตั้งโครงสร้างหรืองานศิลปะโดยไม่ได้รับอนุญาตบนพื้นที่สาธารณะนั้น ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยตำแหน่งของแท่งโลหะนี้ว่าอยู่ที่ไหนของรัฐยูทาห์ รวมถึงยังไม่ได้มีการอ้างว่าเป็นผลงานของมนุษย์คนไหนบนแท่งโลหะชิ้นนี้และในเร็ว ๆ นี้ สำนักจัดการที่ดินของสหรัฐฯ จะตัดสินใจว่าจะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่

The mysterious metal monolith was discover in a remote area of red rock in Utah.

รัฐยูทาห์นั้นขึ้นชื่อเรื่องของการเป็นดินแดนแห่งศิลปะประหลาด ๆ ที่ศิลปินมากมายชอบมาสร้างวัตถุหรือประติมากรรมประหลาด ๆ เอาไว้ตามสถานที่ธรรมชาติโดยเฉพาะในช่วงยุค 60s-70s ผลงานที่มีคนกล่าวถึงมากที่สุดคือ วงกลมขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “วงล้อ Jetty” (Spiral Jetty) ทำจากผลึกเกลือ โคลน และหินบะซอลต์ความยาว 1,500 ฟุต ผลงานของศิลปิน Robert Smithson ในปี 1970 ที่เขามาสร้างเอาไว้ โดยวงล้อจะปรากฏขึ้นในทะเลสาบตอนที่น้ำลงและจะหายไปเมื่อน้ำขึ้น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส