นี่คือ Canon imageCLASS MF645Cx พรินต์เตอร์เลเซอร์ (Laser Printer) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในธุรกิจ SME ยุคใหม่ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์ “เทิร์นโปรทุกออฟฟิศ ให้ธุรกิจไม่สะดุด” เพื่อให้ธุรกิจในทุกรูปแบบได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รุ่นนี้มีไฮไลต์ที่น่าสนใจยังไง จะแบไต๋ให้เป็น 5 ประเด็น

ประเด็นที่ 1 คือ “การใช้งานที่ครอบคลุม”

พฤติกรรมการใช้งานพรินต์เตอร์ในธุรกิจ SME ยุคใหม่ เราคงไม่ได้ใช้แค่พิมพ์เอกสารใช่ไหม ยังมีการเก็บเอกสารสำคัญ ๆ ในรูปแบบดิจิทัล ที่ต้องเอากระดาษมาสแกนเก็บไว้เป็นไฟล์ ควบคู่กับการถ่ายสำเนาเอกสารเก็บไว้…. และบางครั้ง (ซึ่งไม่บ่อย) เราก็ต้องส่ง แฟกซ์ (FAX) เพราะบางหน่วยงานรับเอกสารแค่ช่องทางเดียว… ซึ่งพรินต์เตอร์ที่ดีก็ต้องตอบโจทย์การใช้ให้ครอบคลุม

Canon imageCLASS MF645Cx ก็มีทุกอย่างที่ธุรกิจต้องใช้เลย เพราะเป็นพรินต์เตอร์แบบ Multi-function ที่สามารถพิมพ์, สแกน, ถ่ายสำเนา, และแฟ็กซ์

แต่ที่น่าสนใจคือแต่ละฟังก์ชัน ก็มีความสามารถแยกย่อยด้วย เดี๋ยวลองให้ดู เช่น การสแกนเราสามารถสแกนแล้วส่งอีเมลได้ทันที หรือการทำสำเนาที่เรารวมเอกสาร 4 หน้า ให้อยู่ในหน้าเดียว แถมยังสั่งพิมพ์แบบหน้าหลังได้ด้วยนะ

ประเด็นที่ 2 คือ “พิมพ์สีสันได้สดใส”

เรื่องนี้ต้องพูดถึงเลย เพราะหลายคนมักเข้าใจว่า “พรินต์เตอร์เลเซอร์พิมพ์สีแล้วสีเพี้ยน” แต่ไม่ใช่กับ Canon imageCLASS MF645Cx เพราะรุ่นนี้สามารถพิมพ์สีได้ดีจนน่าตกใจ เนื่องจากใช้ V² Colour™ เทคโนโลยีผงหมึกและการผสมสีแบบใหม่ ที่ให้ขอบเขตการพิมพ์สีต่าง ๆ ที่กว้างขึ้น สดใสขึ้น

ประเด็นที่ 3 คือ “ความรวดเร็วของการพิมพ์”

ถ้าสังเกตที่สั่งพิมพ์เมื่อกี้จะเห็นว่า ภาพสีหนึ่งแผ่นใช้เวลาพิมพ์แค่แป๊บเดียวเองนะ ตามสเปกของ Canon imageCLASS MF645Cx รุ่นนี้ พิมพ์ได้เร็ว 21 หน้าต่อนาที แน่นอนว่าตัวเลขนี้เร็วกว่าพรินต์เตอร์อิงค์เจ็ตที่ใช้ตามสำนักงานแน่นอน

ประเด็นที่ 4 คือ “ความสะดวกสบาย” ในการใช้งาน

กดสั่งพิมพ์จากมือถือได้เลย ที่ทำได้ก็เพราะรุ่นนี้มี Wi-Fi ในตัว และรองรับเทคโนโลยีที่ใช้พิมพ์บนหลายอุปกรณ์ อย่างที่ได้สั่งพิมพ์ผ่านมือถือให้ดูเมื่อตะกี้ เดี๋ยวจะลองกับ iPad และโน้ตบุ๊กดูนะ

นอกจากนี้หน้าจอยังทัชได้ด้วยนะ เวลาจะจัดการงาน ตั้งค่า สั่งพิมพ์ สั่งสแกน หรือจะทำอะไรก็เดินมากดที่หน้าจอได้เลย

ส่วนการเปลี่ยนตลับหมึกอันนี้ก็ง่ายเช่นกัน ทำได้ด้วยตัวเอง แค่เปิดฝาออกมาแล้วยกตลับผงหมึกอันเก่าออก แล้วใส่อันใหม่เข้าไปแค่นี้ก็เรียบร้อย

ส่วนใครที่สงสัยเรื่องดรัม (Drum) อันนี้ไม่ต้องเปลี่ยน เพราะมันมีอยู่ในตลับหมึกแล้ว ข้อดีคือทุกครั้งที่พิมพ์จะมีคุณภาพคมชัดอยู่เสมอ และไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายแฝงในอนาคตด้วย

ประเด็นที่ 5 คือ “ความปลอดภัย”

ปกติพรินต์เตอร์ที่ใช้กับธุรกิจ SME ก็ควรจะให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย ลองคิดดูว่าถ้าพนักงานแอบพิมพ์เอกสารสำคัญออกไป เราจะป้องกันได้ยังไง Canon imageCLASS MF645Cx ก็มีคำตอบให้ เช่น ทุกครั้งที่จะพิมพ์ต้องใส่รหัสผ่านก่อนทุกครั้ง แถมมีระบบจัดการสิทธิ์ทำให้ใช้งานได้อย่างเดียวไปแอบตั้งค่าไม่ได้ นอกจากนี้ยังเช็กประวัติได้ด้วยว่าใครสั่งพิมพ์อะไรไปบ้าง จุดทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ข้อสังเกต

แรกภาษาไทยที่อยู่ในหน้าเมนูมีบางส่วนที่อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจอีกรอบ เช่น พิมพ์สื่อบันทึกจากหน่วยความจำ เอาจริงๆ เขียนให้เข้าใจว่า “พิมพ์จาก Flash Drive” ก็น่าจะเข้าใจง่ายกว่า แต่ยังดีนะที่มีภาพประกอบ ทำให้เราพอเข้าใจได้ ส่วนข้อสังเกตที่สองคือหน้าจอทัชสกรีนที่กดแล้วไม่ไปตามนิ้วสักเท่าไร กดเร็ว ๆ แล้วไม่ค่อยติด ซึ่งจุดนี้ก็แก้ได้เพียงแค่กดให้ช้าลง โดยข้อสังเกตทั้งสองเรื่องนี้คิดว่าไม่น่ากระทบกับการใช้งานหลัก

ราคา

สำหรับราคาของ Canon imageCLASS MF645Cx ที่เราเอามาแนะนำในคลิปนี้ จะอยู่ที่ 17,000 บาท ซึ่งราคานี้รวมตลับหมึกแท้ที่อยู่ในเครื่องด้วยนะ สำหรับการรับประกันก็จะอยู่ที่ 3 ปี ส่วนราคาตลับหมึกก็อยู่ที่ประมาณ​ 3,000 บาทต่อตลับ

นอกจากนี้พรินต์เตอร์เลเซอร์ Canon imageCLASS ยังมีรุ่นใหม่ ๆ ที่สร้างมาเพื่อการใช้กับธุรกิจ SME ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น LBP121dn และ LBP122dw สำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้พิมพ์เอกสารอย่างเดียว ส่วนธุรกิจที่ต้องการแบบใช้งานหลากหลายก็มี MF271dn และ MF272dw ที่เป็น Multi-function แบบรุ่นที่เรากำลังรีวิวอยู่ โดยทั้ง 4 รุ่นที่ตามหลังด้วยรหัส dn จะรองรับแค่การต่อสาย LAN, ส่วนรหัส dw จะต่อ Wi-Fi ได้

ถ้ายังตัดสินใจว่าจะเลือกพรินเตอร์เลเซอร์ดีไหม คิดว่าน่าจะได้คำตอบกันนะ