เป็นที่รู้กันดีว่า Instagram มีความพยายามที่จะลอกเลียนฟีเจอร์คลิปวิดีโอสั้นตาม TikTok ที่ได้รับความนิยมจนเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามการสำรวจของ Meta กลับพบว่า Instagram Reels ยังห่างไกลจากการเอาชนะ TikTok อีกมาก!

ผลสำรวจเผยว่าผู้ใช้ Instagram ใช้เวลาในการดูคอนเทนต์ใน Reels ทั้งหมด 17.6 ล้านชั่วโมง ต่ำกว่า 1 ใน 10 ของผู้ดูคอนเทนต์ TikTok ที่รวมแล้วใช้เวลามากถึง 197.8 ล้านชั่วโมง (เทียบเท่ากับการที่คน 1 คนดูคอนเทนต์แบบไม่หยุดเลยเป็นเวลานานประมาณ 22,564 ปี!)

เอกสารที่เผยแพร่ภายในองค์กรในเดือนสิงหาคมในชื่อ ‘Creators x Reels Stateo f the Union 2022’ โดยเนื้อหาภายในมีการระบุว่า ยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ใน Reels ลดลงจากเดิม 13.6% ใน 4 สัปดาห์ และผู้ใช้ Reels ส่วนใหญ่ก็เพียงแค่ดูเฉย ๆ แต่ไม่ได้มี Engagement ใด ๆ

ปัญหาใหญ่ที่ Instagram เผชิญอยู่ในปัจจุบันคือ ‘การไม่มีผู้ผลิตคอนเทนต์ต้นฉบับ’ และ ‘การขาดแคลนผู้สร้างคอนเทนต์’ โดยครีเอเตอร์ในแพลตฟอร์มที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกานั้นมีจำนวนมากถึง 11 ล้านราย แต่กลับมีเพียง 2.3 ล้านราย (20.7%) เท่านั้นที่โพสต์เนื้อหาบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องในแต่ละเดือน

หนึ่งในบัญชีที่สร้างคอนเทนต์คลิปวิดีโอสั้นลงบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ระบุว่า คอนเทนต์ของเขาที่โพสต์ลงบน TikTok, Youtube Shorts, SNAP ของ Snapchat ต่างมียอดเข้าชมกว่าล้านครั้ง ในขณะที่ Instagram กลับมียอดการเข้าชมต่ำกว่า 100,000 ซึ่งการที่ยอดคนดูน้อยก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีใครอยากจะสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ จาก Instagram Reels

ในขณะเดียวกันครีเอเตอรือีกรายที่ใช้ชื่อว่า @DannyLovesPasta ซึ่งเป็นผู้สร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับการทำอาหารทั้งใน TikTok และ Instagram Reels ก็ได้แสดงความเห็นที่น่าสนใจว่า ผู้ใช้ TikTok และ Reels อาจมีความชอบที่แตกต่างกัน โดยเขาสังเกตว่า คอนเทนต์ที่มองแล้วสวยงามจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าบน Instagram Reels ในขณะที่คลิปที่เขาตั้งกล้องแล้วพูดหน้ากล้องจะได้รับความนิยมมากกว่าใน TikTok

ทั้งนี้ทั้งนั้น Meta ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ประกาศจัดตั้งกองทุนสำหรับจ่ายค่าคอนเทนต์ให้กับเหล่าครีเอเตอร์จำนวนทั้งหมด 1,000 ล้านเหรียญ (ราว 36,500 ล้านบาท) และในปัจจุบัน Reels ก็ได้จ่ายเงินให้กับเหล่าครีเอเตอร์ไปแล้วเป็นจำนวน 120 ล้านเหรียญ

ที่มา: WallStreetJournal

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส