นอกจากที่ OPPO จะพาแบไต๋ไปดูขั้นตอนการผลิตมือถือจอพับกันถึงโรงงานผลิตในจีน จนออกมาเป็นบทความ มือถือจอพับ OPPO Find N2 Flip เขาผลิตกันยังไง แล้ว ยังมีอีกหนึ่งช่วงที่น่าสนใจ นั่นคือความเป็นมาของการออกแบบระบบปฏิบัติการ ColorOS 13 ว่ามีแรงบันดาลใจมาจากอะไร และยังมีข้อมูลการอัปเดตครั้งใหญ่ของ OPPO Find N2 Flip ที่จอหลังจะใช้งานได้มากกว่าเดิม รวมถึงสิ่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามาในอนาคต

คุณ Xi Zheng Director of Software Design OPPO กำลังพูดถึงที่มาของดีไซน์ที่ใช้บน ColorOS 13

ในช่วงแรกคุณ คุณ Xi Zheng ตำแหน่ง Director of Software Design ของ OPPO ก็ได้มาเล่าถึงที่มาของ ColorOS 13 ว่าได้แรงบันดาลใจมาจากสายน้ำ หรือที่เรียกว่า Aquamorphic Design เนื่องจากทุกวันนี้เทคโนโลยีถูกหลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิตประจำวันของมนุษย์ และมีการเปลี่ยนแปลงไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งเหมือนกับสายน้ำ จึงได้หยิบยกมาใช้กับการออกแบบ

“การออกแบบที่ดีเริ่มจากการผสานรวมความสมัยใหม่และตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน เป้าหมายสูงสุดของการออกแบบผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามคือการช่วยลดความยุ่งยากของผู้คนและยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเรา”

Xi Zheng, Director of Software Design, OPPO 

โดย Aquamorphic Design บน ColorOS 13 จะทำให้ทุกส่วนมีความโค้งมนเหมือนน้ำ ตั้งแต่ ไอคอน หน้าต่าง กล่องข้อความ เมนูควบคุม รวมถึงส่วนอื่น ๆ ซึ่งนอกจากรูปร่างแล้ว ธีมสีเองก็ยังใช้สีน้ำเงินและสีส้ม เหมือนกับสีของสายน้ำตอนพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ทำให้มองแล้วรู้สึกถึงความสงบและน่าเชื่อถือ


ส่วนของเลย์เอาต์ก็มีการใส่ความเป็น 3 มิติมากขึ้น ยกตัวอย่าง หน้าแอปนาฬิกาที่จะมีการใส่แสงเงาตามการขึ้นลงของพระอาทิตย์เพื่อให้เวลามองจะรู้สึกถึงช่วงเวลาจริง ๆ และจะโฟกัสได้ง่ายขึ้น ด้านตัวอักษรหรือฟอนต์ (Fonts) ก็ยังคงใช้ OPPO Sans ที่ได้รับรางวัล Red Dot Design Award แต่จะเพิ่มความกว้างขึ้นเพื่อให้อ่านได้สบายตา

ในส่วนของแอนิเมชันก็มีการเพิ่มเอฟเฟคการเคลื่อนไหว ให้ดูมีความคล้ายน้ำ เช่น เวลาสลับแอปก็จะมีเกียวคลื่น เวลาที่เสียบชาร์จหรือปลดล็อกเครื่องก็จะมีเอฟเฟคน้ำกระเพื่อม

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Behavioral Predictions หรือการทำนายพฤติกรรมการใช้งานล่วงหน้า เพื่อนำเสนอทางเลือกในการควบคุมที่ดีที่สุดให้ เช่น หากปัดจอขึ้นเพื่อปิดแอป แล้วสลับกลับไปเปิดแอปก่อนหน้า ระบบจะเรียนรู้พฤติกรรมเรื่อย ๆ แล้วพอครั้งหน้าเราเริ่มปัดจอขึ้นระบบก็จะดำเนินการต่อโดยจะปิดแล้วสลับแอปให้ทันที โดยแต่ละคนระบบก็จะเรียนรู้และตอบสนองต่างกันไป เรียกว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานของเรา

นอกจากนี้ทาง OPPO ยังให้ข้อมูลของการอัปเดตครั้งใหญ่ของ OPPO Find N2 Flip ด้วย นั่นก็คือ Pocket Player ที่ไปพัฒนาร่วมกับ Spotify ให้สามารถใช้จอหลังควบคุมการเปิดเพลงได้โดยไม่ต้องเปิดจอหลัก และยังมี Speech-to-Text Quick Reply ที่เปลี่ยนเสียงพูดให้เป็นข้อความ เพื่อใช้ตอบได้ทันที ที่สำคัญรองรับภาษาไทยด้วยนะ โดยแอปที่รองรับก็จะมี WhatsApp, Messenger, Messages by Google, Telegram และ LINE

สุดท้ายเป็นเซอร์ไพรส์กับฟีเจอร์ใหม่ของ OPPO Find N2 Flip ที่จอหลัง (Cover Screen) สามารถเล่นแอปต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเปิดฝาเครื่อง ต้องบอกว่ามันว้าวมากเพราะทำให้จอหลังมีประโยชน์ขึ้นเยอะ โดยแอปที่ใช้ได้ก็จะมี Google Pay, Facebook, Instagram, Twitter, TikTok และ YouTube

คิดว่าถ้าปล่อยฟีเจอร์นี้ได้เมื่อไร น่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ของมือถือที่มีจอหลังแน่ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็คงต้องรอกันต่อไป เพราะยังอยู่ในช่วงที่ OPPO ต้องไปร่วมมือกับแอปต่าง ๆ ในการพัฒนาทำงานสมบูรณ์ จึงยังไม่มีระยะเวลาที่แน่นอนว่าจะปล่อยเมื่อไร ทั้งนี้คงต้องรอฟังข่าวกันอีกที