หลายไป 2 ปี สำหรับสมาร์ตโฟนในสาย FE (Fan Edition) ของ Samsung โดยในปีนี้ได้กลับมาพร้อม Galaxy S23 FE ที่อัปเกรดขึ้นมากจาก Galaxy S21 FE แต่อาจยังเทียบไม่ได้กับ Galaxy S23 รุ่นมาตรฐาน หรือ Galaxy S22+

Galaxy S23 FE ได้รับการติดตั้งชิปเซตระดับพรีเมียมอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 หรือ Samsung Exynos 2200 (ขึ้นอยู่กับว่าวางจำหน่ายในประเทศใด ซึ่งในไทยเป็น Exynos 2200) ที่นิยมใช้ในสมาร์ตโฟนเรือธงหลายรุ่นเมื่อปี 2022 ในขณะที่ Galaxy S21 FE นั้น ใช้ชิปเซต Snapdragon 888 หรือ Exynos 2100

ในส่วนของกล้องหลังนั้น ได้รับการอัปเกรดกล้องหลักให้มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เทียบเท่ากับ Galaxy S23 และ Galaxy S23+ จากเดิมที่ Galaxy S21 FE มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แต่ยังคงใช้กล้อง Ultrawide ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล และกล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เท่าเดิม ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียดมีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล

Samsung Galaxy S23 FE

สเปกอื่น ๆ ที่น่าสนใจ มีดังนี้

  • หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, รีเฟรชเรต 60 – 120 Hz
  • แรม 6/8 GB
  • สตอเรจ 128/256 GB
  • ขนาดตัวเครื่อง 158 x 76.5 x 8.2 มม. (ใหญ่ขึ้นจาก Galaxy S21 FE ที่มีขนาด 155.7 x 74.5 x 7.9 มม.)
  • ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุรีไซเคิล
  • หนัก 209 กรัม (หนักขึ้นจาก Galaxy S21 FE ที่มีน้ำหนัก 177 กรัม
  • มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 (กันน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาที)
  • แบตเตอรี่ 4,500 mAh, ชาร์จไฟ 25 W (ชาร์จ 0% – 50% ใน 30 นาที)
  • รองรับการชาร์จไฟไร้สาย
  • ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วย One UI 5.1
  • รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการต่อเนื่อง 4 ตัว
  • รองรับการอัปเดตความปลอดภัยต่อเนื่อง 5 ปี

โดยราคาจำหน่าย Samsung Galaxy S23 FE ในไทยคือ

  • รุ่นความจุ 8GB / 128 GB ราคา 22,900 บาท
  • รุ่นความจุ 8GB / 256GB ราคา 25,900 บาท

ที่มา : GSMArena

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส