สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) เจ้าของบริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ ได้ปล่อยหน้าเว็บใหม่เพื่อโปรโมตบริการ “Starlink Direct to Cell” ที่นำเสนอการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ LTE ทั่วโลกผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ได้โดยตรง ซึ่งจะเริ่มให้บริการส่งข้อความในปี 2024 จากนั้นจะขยับไปที่เสียงและข้อมูล รวมไปถึงการรองรับอุปกรณ์ IoT ในปี 2025

บริการ Starlink Direct to Cell สามารถใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ LTE ได้โดยไม่ต้องอัปเกรดฮาร์ดแวร์ เฟิร์มแวร์ หรือติดตั้งแอปใด ๆ เพิ่มให้ยุ่งยาก และจะอยู่ในสถานที่ใดก็ได้ที่มองเห็นท้องฟ้า ก็เข้าถึงบริการสื่อสารด้วยข้อความ เสียง และข้อมูลได้อย่างราบรื่น

เดือนสิงหาคม 2022 สเปซเอ็กซ์ได้จับมือ T-Mobile เพิ่มการเชื่อมต่อในพื้นที่ไร้สัญญาณโทรศัพท์ด้วยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (V2) ที่มีเสาอากาศขนาดใหญ่ ช่วยส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือได้โดยตรงที่ความเร็ว 2 – 4 เมกะบิตต่อวินาที สำหรับบริการส่งข้อความ MMS และแอพส่งข้อความภายในสิ้นปี 2023 ซึ่งเครือข่ายดาวเทียมจะถูกปล่อยและเปิดใช้งานครอบคลุมพื้นที่ของสหรัฐฯ และฮาวาย รวมถึงบางส่วนของอลาสก้า เปอร์โตริโกและอาณาเขตน่านน้ำ นอกจากนี้จะให้บริการด้านเสียงและข้อมูลในอนาคต

เมื่อไม่กี่ปีมานี้ สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่ออกมาจะมีความสามารถการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม เช่น เมื่อปี 2022 Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์ Emergency SOS บริการโทรหรือส่งข้อความพร้อมตำแหน่งไปยังหน่วยบริการฉุกเฉินผ่านดาวเทียม ที่รองรับตั้งแต่ iPhone 14 ขึ้นไป

AST SpaceMobile บริษัทเทคโนโลยีพัฒนาการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนกับดาวเทียมของสหรัฐฯ ได้ส่งดาวเทียม BlueWalker3 (ดาวเทียมขั้นทดสอบ) ไปยังวงโคจรต่ำของโลกเพื่อปล่อยสัญญาณบรอดแบนด์ที่ช่วยให้เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือได้โดยตรง และอนาคตจะปล่อยดาวเทียมรุ่นสมบูรณ์คือ Bluebirds มากกว่า 100 ดวง อีกทั้งประกาศว่าจะสนับสนุนการให้บริการแก่ค่ายมือถือ AT&T

นอกจากนี้ บริการ Starlink Direct to Cell เผยว่าได้เป็นพันธมิตรกับค่ายมือถือชั้นนำทั่วโลก ได้แก่ T-MOBILE (สหรัฐฯ), OPTUS (ออสเตรเลีย), ROGERS (แคนาดา), ONE NZ (นิวซีแลนด์), KDDI (ญี่ปุ่น) และ SALT (สวิตเซอร์แลนด์)

ที่มา : theverge.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส