วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม สื่อทางทหารและของรัฐจีนกล่าวหาว่า สหรัฐฯ กำลังก่อการคุกคามความมั่นคงโลก หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานพบว่า สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้ทำสัญญาลับมูลค่า 1,800 ล้านเหรียญ (64,512 ล้านบาท) กับสำนักงานลาดตระเวนแห่งชาติสหรัฐฯ (NRO) ตั้งแต่ปี 2021 เพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมสอดแนมหลายร้อยดวง ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพโลกโดยกลุ่มดาวเทียมเหล่านี้จะทำงานอยู่ที่วงโคจรระดับต่ำของโลก

บัญชีผู้ใช้ชื่อ Junzhengping บนแพลตฟอร์ม Weibo ที่ดูแลโดยกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) และมีผู้ติดตาม 1,100,000 คน เผยว่า โครงการสตาร์ชีลด์ของสเปซเอ็กซ์แสดงให้เห็นถึงความไม่ละอายใจ (หรือภาษาชาวบ้านด่ากันหยาบ ๆ ว่า “หน้าด้าน”) และสองมาตรฐานของสหรัฐฯ ที่ชอบกล่าวหาว่าบริษัทเทคโนโลยีของจีนเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐฯ อย่าช่วยเหลือคนร้ายทำชั่ว

นอกจากนี้โพสต์ดังกล่าวได้เรียกร้องให้ทุกประเทศทั่วโลก ควรระมัดระวังและป้องกันภัยคุกคามด้านความมั่นคงใหม่ ๆ ที่ใหญ่กว่าที่สร้างโดยรัฐบาลสหรัฐฯ

หวัง หยานหนาน (Wang Yanan) หัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสาร Aerospace Knowledge ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะโกลบอลไทมส์ว่า โครงการดาวเทียมของสเปซเอ็กซ์ก่อให้เกิดความท้าทายต่อความมั่นคงและเสถียรภาพระดับโลก ซึ่งการสอดแนมข่าวกรองระดับสูงของสหรัฐฯ ในประเทศหรือภูมิภาคต่าง ๆ มันเป็นความกังวลที่จะทำให้เกิดประเด็นร้อนที่มีความอ่อนไหวหรือรุนแรงมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อีลอน มัสก์ เป็นเจ้าของบริษัทสเปซเอ็กซ์ และเป็นผู้บริหารอีกหลายบริษัท โดยเฉพาะบริษัทเทสลา ซึ่งมีฐานการผลิตขนาดใหญ่อยู่ในประเทศจีน แต่ทั้งนี้บัญชีผู้ใช้ชื่อ Junzhengping และหนังสือพิมพ์เดอะโกลบอลไทมส์ไม่ได้กล่าวพาดพิงอะไรเกี่ยวกับเทสลาและมัสก์