นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ป.ป.ง.) สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกา (HSI) และบริษัท Binance ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมกันแถลงปฏิบัติการทลายขบวนการหลอกลวงแบบผสมผสาน (Hybrid Scam) ข้ามชาติ ในชื่อ The Purge

โดยภายใต้ความร่วมมือของหน่วยบังคับใช้กฎหมายและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของไทยและต่างประเทศ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ที่บงการขบวนการ Hybrid Scam และตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล

ก่อนหน้านี้ ในคดีที่ฟ้องในปี 2564 และ 2565 พบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนในลักษณะที่คนร้ายใช้วิธีสุ่มชักชวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้ลงทุนสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มที่ไม่มีอยู่จริง โดยให้เหยื่อซื้อเงินคริปโทในสกุล USDT และโอนเข้าไปยังกระเป๋าเงินคริปโท (Crypto Wallet) ตามที่ระบุ ก่อนที่จะถูกโอนเข้าบัญชีของแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโท

เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนพบว่าบัญชีกระเป๋าเงินดังกล่าวนั้นมีความเชื่อมโยงกับ ซู เชาเซียน (Shaoxian Su) บุคคลสัญชาติจีนกับพวก และพบว่ามีการใช้ตัวแทน (Nominee) ที่เป็นบุคคลสัญชาติไทยที่เชื่อว่าเป็นตัวกลางในการอำพรางการทำธุรกรรม โดยการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินต่าง ๆ

อีกทั้งยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีน สิงคโปร์ และไทย และยึดทรัพย์สินที่มีทั้งคอนโดหรู รถยนต์ และสินค้าแบรนด์เนม รวมมูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งต่อมาอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้อง และสำนักงาน ป.ป.ง. ยึดและอายัดทรัพย์สินชั่วคราว เพื่อให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเฉลี่ยคืน โดยยังรวบรวมพยานหลักฐานที่นำมาสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 26 คนด้วย

นอกจากนี้ ขบวนการนี้มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ทำธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์ ที่มีเงินหมุนเวียนสูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี