คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ที่อยู่ภายใต้องค์การสหประชาชาติ ได้เปิดรายงานเกี่ยวกับวิกฤติสภาพภูมิอากาศเมื่อเดือนมีนาคม 2023 ซึ่งเตือนว่า ก๊าซเรือนกระจกจะทำให้โลกร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส และมีเป้าหมายให้รัฐบาลออกมาตรการเชิงนโยบายด้านสภาพอากาศอย่างมีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกัน ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศกำลังประสบปัญหาจากภาวะโลกร้อน แต่จะมีสักกี่ประเทศที่จริงจัง เริ่มออกมาตรการและใช้กฎเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องนี้

สำนักข่าวนิกเคอิรายงานว่า เวียดนามได้เริ่มนำกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ ซึ่งในปีหน้าจะเริ่มจากนโยบายให้ธุรกิจต่าง ๆ จัดทำบัญชีการปล่อยและแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อขจัดความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมในการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลราคาถูกแทนการลงทุนใช้พลังงานสะอาดที่มีต้นทุนสูงกว่า ทั้งนี้มีบริษัทเอกชนได้ออกมาเห็นด้วย เช่น โคคาโคล่า และบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้า Thanh Cong Textile ซึ่งต้องการให้รัฐบาลออกกฎเกณฑ์จำกัดการทำกำไรจากการทำธุรกิจที่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ภาคธุรกิจในเวียดนามให้ความเห็นว่า ลูกค้ายังคงให้การสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทต่าง ๆ ก็ไม่อยากสูญเสียลูกค้า แต่พวกเขาไม่อยากเสียเปรียบในการแข่งขัน ดังนั้นภาครัฐควรออกกฎเกณฑ์เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยให้ทุกบริษัทจ่ายต้นทุนที่ใกล้เคียงกัน

นอกจากนี้ภาคธุรกิจกำลังขอให้รัฐบาลออกนโยบายด้านอุตสาหกรรมอีก 2 นโยบาย เพื่อส่งเสริมองค์กรที่ประพฤติดี ซึ่งนโยบายแรกคือ การลดหย่อนภาษีเพื่อการผลิตที่สะอาด เช่น การเปลี่ยนมาใช้วัสดุอินทรีย์และสารเคมีที่ปลอดภัย และอีกนโยบายคือ มาตรฐานการรายงานความยั่งยืน เช่น รายการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพให้อยู่ภายใต้มาตรฐานที่กำหนด

เดือนสิงหาคม 2023 รัฐบาลเวียดนามได้เผยแพร่คู่มือการปฏิบัติตามกฎระเบียบในการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งมี 6 อุตสาหกรรมที่ต้องเริ่มติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรม พลังงาน การขนส่ง การก่อสร้าง เกษตรกรรม และการจัดการขยะของเสีย

กฎสินค้าคงคลังของเวียดนามจะกำหนดให้บริษัทปล่อยคาร์บอนได้อย่างน้อย 3,000 ตันต่อปี และกระทรวงสิ่งแวดล้อมจะกำหนดโควตาในการปล่อยมลพิษให้กับแต่ละบริษัท ซึ่งถ้าบริษัทใดปล่อยมลพิษเกินโควตาก็จะต้องซื้อเครดิตคาร์บอนมาชดเชย ส่วนบริษัทที่ลดการปล่อยมลพิษได้มากมายจนมีเครดิตคาร์บอนเหลือก็สามารถนำไปขายบริษัทอื่นผ่านตลาดคาร์บอนได้