Samsung ได้เปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 (ระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม) ปี 2025 โดยระบุว่า สมาร์ตโฟนเรือธงซีรีส์ Galaxy S25 มียอดจำหน่ายในระดับน่าประทับใจ ซึ่งมีส่วนสำคัญช่วยผลักดันให้บริษัททำรายประจำไตรมาสสูงเป็นประวัติการณ์
รายได้ดังกล่าวสูงถึง 79.14 ล้านล้านวอน (KRW) หรือประมาณ 1.85 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 เมื่อปี 2024 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) สูงถึง 6.7 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 157,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน
รายได้ดังกล่าวมาจากแผนก Samsung MX ซึ่งดูแลธุรกิจอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Samsung สูงถึง 37 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 865,000 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4.3 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการใช้ประสบการณ์ Galaxy AI ที่มีความล้ำหน้า และความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ชิ้นส่วนบางตัวในการประกอบสมาร์ตโฟนมีราคาถูกลง

ทั้งนี้ Samsung มีแผนจะเปิดตัว Galaxy S25 Edge ที่มีความบางประมาณ 5.8 มม. ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และวันที่ 30 พฤษภาคม 2025 สำหรับตลาดทั่วโลก เพื่อคงยอดจำหน่ายสมาร์ตโฟนเรือธงให้แข็งแกร่งต่อเนื่องไปในไตรมาสที่ 2 (ระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน) ซึ่งมักจะเป็นไตรมาสที่ Samsung ทำยอดจำหน่ายสมาร์ตโฟนได้ไม่ดีนัก
รายได้อีกส่วนที่สำคัญจากแผนก Device Solutions ซึ่งดูแลธุรกิจชิปเซมิคอนดักเตอร์และหน่วยความจำของ Samsung โดยทำรายได้สูงถึง 25.1 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 596,000 ล้านบาท
Samsung ได้ระบุเพิ่มเติมว่า การคาดการณ์ถึงผลประกอบการณ์ในอนาคตถัดจากนี้เป็นสิ่งที่ยาก เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค และปัญหาการค้าระหว่างประเทศที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว