ไม่กี่วันที่ผ่านมา เอกสารของบริษัท Nvidia ที่ยื่นต่อ ก.ล.ต.สหรัฐฯ (SEC) เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับขึ้นฐานเงินเดือนในปี 2025 ให้กับซีอีโอ เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) เพิ่มขึ้นเป็น 1,500,000 เหรียญ (49.7 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับปี 2024 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

นอกจากนี้ หวงได้เงินโบนัสผันแปร (Variable Cash) ที่ขึ้นอยู่กับผลงาน และเป็นค่าตอบแทนจากที่ผู้บริหารระดับสูงสามารถปฏิบัติงานได้ตามตัวชี้วัด ซึ่งได้เพิ่มขึ้น 1 ล้านเหรียญ (33.13 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2024 รวมทั้งได้รางวัลในรูปแบบหุ้นบริษัท (Stock Awards) เพิ่มขึ้นเป็น 38.8 ล้านเหรียญ (1,285 ล้านบาท) และคิดค่าตอบแทนรวมทั้งหมดในรอบปีงบประมาณ 2025 อยู่ที่ 49.9 ล้านเหรียญ (1,653 ล้านบาท)

กระแสความนิยมใน AI ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เป็นแรงสนับสนุนให้ Nvidia เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งเกิดจากความต้องการชิป AI สำหรับนำไปฝึกโมเดลและสนับสนุนการประมวลผล ส่งผลให้รายได้ของบริษัทในปีงบประมาณ 2025 เพิ่มขึ้น 114% ที่ 130,500 ล้านเหรียญ (4.32 ล้านล้านบาท) ดังนั้นไม่แปลกที่บริษัทจะขึ้นเงินเดือนให้กับซีอีโอ ซึ่งคณะกรรมการด้านค่าตอบแทนเผยว่าการขึ้นเงินเดือนให้หวงนั้นมีความเหมาะสมเท่าเทียมกับเงินเดือนภายในของผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ

แค่นี้ยังไม่พอ หวงยังได้ค่ารักษาความปลอดภัยที่อยู่อาศัย ค่าปรึกษาและบริการคนขับรถในปี 2025 อยู่ที่ 3.5 ล้านเหรียญ (116 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นมาจากปี 2024 ที่ได้อยู่ 2.2 ล้านเหรียญ (72.91 ล้านบาท) เนื่องจากตอนนี้หวงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่ทั้งนี้หวงยังได้น้อยกว่า ซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอของ Google ที่ได้ถึง 8.27 ล้านเหรียญ (274 ล้านบาท) ซึ่งพิชัยได้เพิ่มจากปี 2024 ถึง 22%

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่สิ้นปี 2022 ถึงสิ้นปี 2024 หุ้นของ Nvidia ได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 9 เท่า และปัจจุบันหวงได้ครอบครองหุ้นของบริษัทอยู่ประมาณ 3.5% ซึ่งมีมูลค่าอยู่ประมาณ 94,000 ล้านเหรียญ (3.11 ล้านล้านบาท) แม้ว่าการขึ้นเงินเดือนของหวงเป็นแค่เศษเงินของมูลค่าหุ้นที่เขาถือครองอยู่ด้วยซ้ำ แต่การเพิ่มเงินเดือนเป็นสิ่งที่เหมาะสมเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลงานในการนำบริษัทของซีอีโอ และเป็นการปรับสมดุลค่าตอบแทนในองค์กรด้วย