เว็บไซต์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา (NASA) ได้เผยแพร่ร่างวงเงินงบประมาณประจำปี 2026 (Fiscal Year 2026 Discretionary Budget Request) ที่จัดทำโดยสำนักงานบริหารและงบประมาณ (OMB) หน่วยงานในฝ่ายบริหารของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ซึ่งได้เสนอลดงบประมาณของนาซาลงประมาณ 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (195,891 ล้านบาท) ในขณะที่ได้จัดสรรงบ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (32,641 ล้านบาท) สำหรับโครงการสำรวจดาวอังคาร ซึ่งถูกสื่อแซวว่าช่างเหมาะเจาะไปตรงกับเป้าหมายของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) และบริษัท SpaceX ที่ต้องการไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร
นาซาได้รับการเสนองบประมาณปี 2026 อยู่ที่ 18,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (614,073 ล้านบาท) น้อยกว่าที่ได้ในปี 2025 คือ 25,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (829,703 ล้านบาท) ซึ่งลดลงประมาณ 24% หรือถูกปรับลด 6,340 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (207,105 ล้านบาท) ตามเป้าหมายของรัฐบาลกลางที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย 163,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (5,324,000 ล้านบาท)
ร่างงบประมาณ 2026 ของนาซาระบุว่าต้องมุ่งเน้นการจัดสรรงบ เพื่อเอาชนะจีนในการกลับสู่ดวงจันทร์และส่งมนุษย์คนแรกไปยังดาวอังคาร โดยจัดสรรงบกว่า 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (228,609 ล้านบาท) สำหรับสำรวจดวงจันทร์ และนำงบใหม่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปใช้สำหรับโครงการสำรวจดาวอังคาร เพื่อต้องการให้สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำด้านอวกาศ อีกทั้งได้ยกเลิกภารกิจที่มีค่าใช้จ่ายสูงและลดการวิจัยที่มีความสำคัญน้อย
งบประมาณนี้มีผลทำให้นาซาต้องปรับโครงสร้างบุคลากร บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การดำเนินงานของศูนย์นาซา การบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก การก่อสร้าง และกิจกรรมการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
เจเน็ต เปโตร (Janet Petro) รักษาการผู้บริหารของนาซาได้อีเมลแจ้งพนักงานว่า หน่วยงานจะถูกตัดงบประมาณลงประมาณ 25% พร้อมย้ำให้พนักงานอดทน ยึดมั่นในวินัย (ปฏิบัติตามทิศทางของรัฐบาล) และทำงานในสภาพแวดล้อมที่จำกัด นอกจากนี้เผยกับสื่อว่าจำเป็นต้องยุติกิจกรรมบางอย่างลง
ในร่างงบประมาณปี 2026 ได้มีการยุติโครงการสำคัญ เช่น จรวด SLS ระบบขนส่งขนาดใหญ่ของนาซาสำหรับภารกิจไปดวงจันทร์, ยานอวกาศ Orion และโครงการ Gateway สถานีอวกาศรอบดวงจันทร์ ซึ่งแน่นอนว่าจะหันไปใช้บริการของเอกชนแทนที่จะทุ่มงบมหาศาลเพื่อพัฒนาเอง
นอกจากนี้ นาซาจำเป็นต้องยุติโครงการเก็บตัวอย่างจากดาวอังคารและส่งกลับโลก (MSR) ซึ่งต้องใช้จรวดนำส่งหุ่นยนต์ไปเก็บตัวอย่างดินและหินบนดาวอังคาร รวมทั้งต้องยุติโครงการพัฒนาการบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Aviation Spending)
สังเกตว่าการยกเลิกจรวด SLS และยานอวกาศ Orion จะเป็นโอกาสดีสำหรับระบบขนส่งอวกาศขนาดใหญ่อย่าง Starship ของ SpaceX ที่ออกแบบมาสำหรับภารกิจไปดวงจันทร์และดาวอังคาร แม้ว่าจะต้องแข่งกับ ULA และ Blue Origin แต่ก็เชื่อว่าอิทธิพลของ อีลอน มัสก์ ซีอีโอ SpaceX ที่เป็นหัวหน้าหน่วยงาน DOGE ในรัฐบาลทรัมป์น่าจะมีบารมีช่วยได้หรือเปล่าต้องรอติดตามดูกัน
ล่าสุดสัปดาห์ที่แล้ว จาเร็ด ไอแซกแมน (Jared Isaacman) นักบินอวกาศเอกชนและพันธมิตรของมัสก์ ซึ่งถูกทรัมป์เสนอชื่อให้เป็นผู้บริหารนาซาคนใหม่เมื่อก่อนหน้านี้ ได้รับการโหวตจากคณะกรรมการด้านการพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ และการขนส่งของวุฒิสภาสหรัฐฯ เพื่อยืนยันการเสนอชื่อของเขาไปยังวุฒิสภาทำการพิจารณาขั้นสุดท้าย ซึ่งคนคุ้นเคยกันก็น่าจะช่วยเหลือกันใช่หรือไม่ ?
ร่างงบประมาณปี 2026 ของนาซา จะต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส หากสภาไม่เห็นด้วยก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก และเมื่อผ่านสภาแล้วก็จะถูกส่งไปให้ทรัมป์ลงนามอนุมัติ