Meta (Facebook) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ผู้อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp ประกาศว่าได้ลงนามข้อตกลงกับ XGS Energy บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานความร้อนใต้พิภพรุ่นใหม่ เพื่อเพิ่มพลังงานไฟฟ้าสะอาดไร้คาร์บอนขนาด 150 เมกะวัตต์ให้กับโครงข่ายของการไฟฟ้าในรัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐฯ และป้อนให้กับศูนย์ข้อมูล AI ของตนที่ตั้งอยู่ในรัฐดังกล่าว

Meta กระโดดเข้ามาสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เติบโตต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมองว่าเทคโนโลยีพลังงานความร้อนใต้พิภพรุ่นใหม่อย่าง XGS จะเข้ามาช่วยเพิ่มกำลังไฟฟ้าและสนับสนุนความก้าวหน้าของศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐฯ ได้

โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมจะใช้ความร้อนจากโลก ผ่านของเหลวที่มีความร้อนหรือไอน้ำจากแหล่งธรรมชาติมาใช้หมุนกังหันปั่นไฟฟ้า ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีความจำกัดทางภูมิศาสตร์คือผลิตไฟฟ้าได้เฉพาะโซนพื้นที่ที่มีของเหลวความร้อนเท่านั้น และในสหรัฐฯ มีแค่ 0.5% จากทั้งหมด ส่วนเทคโนโลยีรุ่นใหม่ของ XGS จะดึงพลังงานจากหินร้อนแห้ง (dry rock) โดยเจาะบ่อลงไปในหินร้อนแล้วติดตั้งท่อและปล่อยให้น้ำไหลหมุนเวียนผ่านท่อ น้ำในท่อจะดูดความร้อนจากหินร้อน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นไอน้ำเพื่อขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยที่น้ำจะถูกหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และผลิตไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน

โครงการนี้จะแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 เฟส และมีเป้าหมายเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ภายในปี 2030 นอกจากนี้ Meta กำลังมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการปล่อยยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา Meta ได้ทำสัญญากับ Constellation Energy ในการซื้อไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 1,121 เมกะวัตต์เป็นเวลา 20 ปี และเมื่อสิงหาคมปี 2024 ได้ทำสัญญากับ Sage Geosystems เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ 150 MW สนับสนุนการเติบโตของศูนย์ข้อมูล AI ของบริษัท