Axios รายงานว่า Tinder กำลังทดสอบฟีเจอร์ระบบความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้าแบบบังคับในสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการยืนยันความเป็นเจ้าของโปรไฟล์และจัดการกับการปลอมตัวตน และการสร้างบัญชีปลอม

รายงานยังบอกด้วยว่าต่อไปนี้ ผู้ใช้ใหม่ ๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย จะต้องมอบข้อมูลไบโอเมตริกส์ด้วยการสแกนหน้าในระบบที่เรียกว่า “Face Check” เพื่อยืนยันว่าหน้าตาตรงกับรูปโปรไฟล์ โดยจะต้องถ่ายคลิปเซลฟี่สั้น ๆ ที่จะต้องสอดคล้องกับตัวชี้วัดทางไบโอเมตริกส์และพิสูจน์ว่าผู้ใช้รายนั้น ๆ ไม่ใช่บอตที่ใช้ภาพ AI เมื่อทำเสร็จแล้วก็จะได้ป้ายที่แสดงการยืนยันตัวตน

นอกจากนี้ Face Check ยังจะดูด้วยว่าหน้าของผู้ใช้รายนั้น ๆ ถูกใช้ในมากกว่า 1 บัญชีหรือไม่ ซึ่งอาจช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกสวมรอยหรือถูกนำรูปภาพไปสร้างโปรไฟล์ปลอม

ทั้งนี้ แม้ว่า Tinder จะมีระบบการยืนยันตัวตนด้วยคลิปเซลฟี่ตั้งแต่ปี 2023 แต่ที่ผ่านมาเป็นเพียงทางเลือก ไม่ได้บังคับเหมือนในการทดสอบครั้งนี้ นั่นแปลว่าหากจะเปิดบัญชีใหม่ (โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย) จะต้องใช้ระบบยืนยันตัวตนไม่ว่าระบบใดก็ระบบหนึ่ง

โยเอล รอต (Yoel Roth) หัวหน้าฝ่ายความเชื่อมั่นและปลอดภัยของ Match Group เจ้าของ Tinder ชี้ว่าฟีเจอร์ Face Check เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเครื่องมือที่ทำมาเพื่อยืนยันตัวตนที่ผู้ใช้สามารถเลือกได้ และเป็นฟีเจอร์ที่มีมาเพื่อยืนยันว่าเป็นคนจริง ๆ มีชีวิตอยู่จริง ๆ ไม่ใช่บอต หรือบัญชีปลอม

Tinder ยังบอกด้วยว่าคลิปเซลฟีที่ใช้ในการยืนยันตัวตนจะถูกลบออกจากระบบ หลังจากที่กระบวนการยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น ส่วนที่เก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์คือ “แผนที่ใบหน้า” ที่เข้ารหัสไว้แบบถอนไม่ได้ เพื่อใช้สำหรับตรวจจับบัญชีผู้ใช้ที่ทำซื้อขึ้นในอนาคต

Face Check มีการทดสอบทั้งในโคลอมเบีย และแคนาดาด้วยแล้ว ซึ่งรอตบอกว่าผลลัพธ์ของการทดสอบเป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้างน่าพอใจ โดย Tinder จะคอยเฝ้าดูผลตอบรับของฟีเจอร์นี้ก่อนตัดสินใจว่าจะนำไปใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ของสหรัฐฯ ด้วยหรือไม่