Nothing ได้เปิดตัวหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในปี 2025 นี้ นั่นคือ Phone (3) ซึ่งมาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่น และอัปเกรดสเปกในหลายด้าน โดยหนึ่งในไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจมาก คือ ไฟ Glyph ที่ได้รับการยกระดับให้เป็นจอแสดงผล LED แบบขาวดำ เรียกว่า Glyph Matrix ติดตั้งอยู่ที่มุมขวาบนของด้านหลังตัวเครื่อง

จอ Glyph Matrix ดังกล่าว ประกอบด้วยหลอดไฟ LED จำนวน 489 ดวง ซึ่งเป็นการเปิดมุมมองการแจ้งเตือนในรูปแบบใหม่ โดยสามารถแสดงภาพดอตเมตริกซ์ (Dot Matrix: การสร้างภาพโดยการจัดเรียงจุดเล็ก ๆ) สำหรับการแจ้งเตือนต่าง ๆ เช่น หมายเลขโทรเข้า, ข้อความจากแอปต่าง ๆ, ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลสถานะระบบ

Nothing Phone (3)

Nothing ยังเปิดกว้างให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งจอ Glyph Matrix ให้มีความหลากหลายมากขึ้นได้ เช่น กำหนดไอคอนเฉพาะสำหรับรายชื่อผู้ติดต่อ หรือแสดงผลหน้าปัดนาฬิกา เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์พิเศษ เรียกว่า Glyph Toys ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ ๆ บนจอ Glyph Matrix เช่น

  • Glyph Mirror : ใช้จอ Glyph Matrix สะท้อนภาพภาพในสไตล์ดอตเมตริกซ์
  • Solar Clock : นาฬิกาแสดงตำแหน่งของดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา
  • Stopwatch : นาฬิกาจับเวลา
  • Battery Indicator : แสดงสถานะของแบตเตอรี่
  • เกมต่าง ๆ เช่น เกมหมุนขวด เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ Glyph Toys บนจอ Glyph Matrix ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดปุ่ม Glyph Button

Nothing Phone (3)

ด้านหลังตัวเครื่องยังได้รับการออกแบบให้มีความแตกต่างจากรุ่นก่อน พร้อมติดตั้งกล้องความละเอียด 50 ล้านพิกเซล จำนวน 3 ตัว ดังนี้

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้ว, ระบบกันภาพสั่น OIS (Optical Image Stabilization)
  • กล้องซูมแบบ Periscope : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ขนาด 1/2.7 นิ้ว, รองรับการซูมแบบไม่เสียความละเอียด (Optical Zoom) ได้ 3 เท่า, ปรับมาถ่ายภาพ Macro ได้
  • กล้อง Ultrawide : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, มุมกว้าง 114 องศา

ด้านหน้าตัวเครื่องได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรองรับรีเฟรชเรต 120 Hz (รีเฟรชภาพได้ 120 ครั้งต่อวินาที), ความสว่างสูงสุด 4,500 Nit และเทคโนโลยี PWM Dimming ช่วยปรับความสว่างหน้าจออย่างรวดเร็วด้วยความถี่สูง 2,160 Hz เพื่อลดการใช้งพลังงาน รวมถึงติดตั้งกล้องเซลฟีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้แผงหน้าจอ

Nothing Phone (3)

Nothing Phone (3) นั้น ขับเคลื่อนการทำงานด้วยขุมพลังจากชิปเซต Snapdragon 8s Gen 4 ที่ Qualcomm เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2025 โดยได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร ของ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) และมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.20 GHz

ชิปเซตดังกล่าวทำงานร่วมกับแรม 12/16 GB และสตอเรจ 256/512 GB พร้อมแบตเตอรี่ซิลิคอน-คาร์บอน (Silicon-Carbon) ขนาดความจุ 5,150 mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไฟ 65 W และชาร์จไฟไร้สาย 15 W ภายใต้ตัวเครื่องที่มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ ซึ่งช่วยป้องกันตัวเครื่องในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาที

Nothing Phone (3)

Nothing Phone (3) ยังได้รับการติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Nothing OS 3.5 ที่อ้างอิงพื้นฐานจากระบบ Android 15 ซึ่งทางแบรนด์ยืนยันว่าจะได้รับการอัปเกรดซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชัน 4.0 ซึ่งอ้างอิงพื้นฐานจาก Android 16 ในปลายไตรมาสนี้ (ปลายเดือนกันยายน 2025) พร้อมรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี และอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยเป็นระยะเวลา 7 ปี

Nothing จะวางจำหน่าย Phone (3) ผ่านเว็บไซต์ nothing.tech และตัวแทนจำหน่าย ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2025 โดยมีราคาดังนี้

  • แรม 12 GB + สตอเรจ 256 GB : 799 เหรียญ หรือประมาณ 25,900 บาท
  • แรม 16 GB + สตอเรจ 512 GB : 899 เหรียญ หรือประมาณ 29,100 บาท
Nothing Phone (3)