Amazon กำลังเร่งติดตั้งหุ่นยนต์ในโกดังทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีจำนวนเกือบ 1 ล้านตัว ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนพนักงานในศูนย์กระจายสินค้าทั้งหมด 1.56 ล้านคน
Rueben Scriven ผู้จัดการฝ่ายวิจัยจาก Interact Analysis ชี้ว่า Amazon กำลังก้าวเข้าสู่การใช้หุ่นยนต์แบบเต็มรูปแบบ เพื่อเข้ามาช่วยงานต่างๆ ตั้งแต่การขนส่งพัสดุ ยกสินค้าจากรถบรรทุก ไปจนถึงการหยิบของจากชั้นวาง นอกจากนี้ Amazon ยังทดลองใช้หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์สำหรับจัดส่งพัสดุถึงบ้านลูกค้าด้วย
Amazon อ้างว่าการใช้หุ่นยนต์ในการจัดส่งสินค้าทั่วโลกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 75% และยังช่วยลดปัญหาการลาออกของพนักงานที่ทำงานหนัก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ในเมืองชรีฟพอร์ต รัฐลุยเซียนา ซึ่งใช้ระบบ Sequoia ในการจัดการสินค้า ทำให้มีประสิทธิภาพเร็วกว่าโกดังอื่นถึง 25%

พนักงานบางคนมองว่าหุ่นยนต์ช่วยลดภาระงานหนักได้จริง อย่างเช่น Neisha Cruz พนักงานในโกดังคอนเนตทิคัตที่ทำงานมาแล้ว 5 ปี เธอบอกว่าหุ่นยนต์ช่วยลดภาระงานหนัก เช่น การยกของหรือการเดินไกล และเธอได้รับการฝึกอบรมให้ดูแลระบบหุ่นยนต์ Amazon ยังยืนยันว่าการมีหุ่นยนต์จะช่วยสร้างงานใหม่ อย่างช่างเทคนิคหุ่นยนต์ ซึ่งมีรายได้สูงกว่า
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องหุ่นยนต์แย่งงานมนุษย์ก็ยังมีมากขึ้นเรื่อยๆ รายงานจาก Wall Street Journal ระบุว่าปีนี้โกดัง Amazon มีพนักงานเฉลี่ยเพียง 670 คนต่อแห่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดในรอบ 16 ปี แม้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะเติบโตขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ ปริมาณงานต่อพนักงานยังเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จาก 175 ชิ้นในปี 2016 เป็น 3,870 ชิ้นในปี 2025
New York Times ชี้ว่า แม้หุ่นยนต์จะสร้างตำแหน่งงานใหม่ก็จริง แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทดแทนงานที่หายไป ตัวอย่างเช่น ในโกดังที่มีพนักงาน 2,500 คน งานดูแลหุ่นยนต์มีเพียง 100 ตำแหน่งเท่านั้น นอกจากนี้ หุ่นยนต์ยังมีข้อจำกัดอยู่ เช่น การคัดแยกสินค้าจากกล่อง ซึ่งมนุษย์ยังคงทำได้ดีกว่า
ถึงแม้จะมีความกังวล แต่ Amazon ยังคงเดินหน้าเพิ่มจำนวนหุ่นยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยจาก 750,000 ตัวเมื่อปีที่แล้ว ได้พุ่งสูงขึ้นเกือบ 1 ล้านตัวในเวลาเพียงครึ่งปี