Redmi แบรนด์ย่อยของ Xiaomi ที่เน้นพัฒนาอุปกรณ์ระดับพรีเมียม, คุ้มค่า และราคาเข้าถึงง่าย ได้ส่งแท็บเล็ต Pad 2 Play Bundle ซึ่งเป็นเวอร์ชันพิเศษของ Pad 2 ที่เปิดตัวเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2025 โดยเสริมการทำงานด้วยเคสซิลิโคนสีฟ้าป้องกันแรงกระแทก, ขาตั้งสีเหลือง และปากกาสไตลัสสีเหลือง

Redmi Pad 2 Play Bundle นั้น ได้รับการติดตั้งจอกระจกด้าน ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2,560 × 1.600 พิกเซล) ความหนาแน่น 274 ppi (Pixels per Inch : จำนวนของเม็ดพิกเซลที่บรรจุในพื้นที่ 1 นิ้ว) ซึ่งใช้เทคโนโลยีการสกัดผิวระดับนาโนแบบ AG (Anti-Glare : ลดแสงสะท้อน) ช่วยลดการสะท้อนของแสงที่ตกกระทบหน้าจอได้ถึง 97% เพื่อให้แสดงภาพได้อย่างชัดเจนมากขึ้นทั้งการใช้งานในสถานที่และกลางแจ้ง
เสริมด้วยการผ่านมาตรฐาน TÜV Rheinland ซึ่งยืนยันว่าฉายแสงสีฟ้าในระดับต่ำ และปราศจากการกะพริบของหน้าจอ เพื่อถนอมดวงตาผู้ใช้

หน้าจอดังกล่าวยังรองรับการแสดงค่าสี 1,070 ล้านสี, รองรับรีเฟรชเรตแบบ AdaptiveSync (ปรับอัตรารีเฟรชแบบไดนามิก เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่ปรากฏ) ถึง 90 Hz, อัตราตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอบนความถี่ 360 Hz, ตอบสนองต่อปากกาสไตลัสบนความถี่ 240 Hz และมีความสว่าง 500 Nits (ใช้งานปกติ) และ 600 Nits (ใช้งานกลางแจ้ง)


Redmi Pad 2 Play Bundle ได้ใช้ศักยภาพจากชิปเซต MediaTek Helio G100-Ultra ที่ได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 6 นาโนเมตร ซึ่งได้รับการติดตั้งแกนซีพียู จำนวน 6 คอร์ ได้แก่ Cortex A76 (2.2 GHz) จำนวน 2 คอร์ และ Cortex A55 (2.0 GHz) จำนวน 6 คอร์ เสริมด้วยชิปกราฟิก Mali-G57 MC2 ซึ่งทำงานร่วมกับแรม LPDDR4X ความเร็วสูง ความจุ 4 GB และสตอเรจ UFS 2.2 ความจุ 128 GB
แท็บเล็ตดังกล่าวขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น Call Sync (เชื่อมโยงการโทรเข้าออกระหว่างสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต), Network Sync (สลับการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายอย่างลื่นไหล) และแชร์คลิปบอร์ด เป็นต้น


Redmi Pad 2 Play Bundle ยังได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ความจุสูงถึง 9,000 mAh ซึ่งรองรับการเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้สูงสุด 17 ชั่วโมง, อ่านเอกสารต่อเนื่องได้ 22 ชั่วโมง, ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 234 ชั่วโมง และสแตนด์บายได้ 86 วัน โดยรองรับการชาร์จไฟเร็ว 18 W ผ่านพอร์ต USB-C เทคโนโลยี PD (Power Delivery) 2.0 และเทคโนโลยี QC (Quick Charge) 2.0
นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งกล้องหลัก ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.0, บันทึกวิดีโอ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที), กล้องเซลฟี ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (f/2.2, บันทึกวิดีโอ 1080p), ติดตั้งลำโพง จำนวน 4 ตัว ซึ่งรองรับมาตรฐานเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res Audio และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.3 และ USB 2.0

Redmi Pad 2 Play Bundle มีราคาอยู่ที่ 179 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 7,800 บาท ในสหราชอาณาจักร และ 199.90 ยูโร หรือประมาณ 7,600 บาท ในยุโรป
