OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ F31 อย่างเป็นทางการ ได้แก่ F31 รุ่นมาตรฐาน, F31 Pro และ F31 Pro+ ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางราคาประหยัดที่มาพร้อมความทนทานระดับเรือธง, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และจอ OLED ที่แสดงภาพได้อย่างนุ่มนวล
สมาร์ตโฟนทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมดีไซน์เน้นความทนทาน เรียกว่า 360° Armour Body, ช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ และมาตรฐานความทนทาน ดังนี้
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP66 : ป้องกันตัวเครื่องจากฝุ่นโดยสมบูรณ์ และน้ำที่ฉีดใส่ตัวเครื่องรอบทิศทาง
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 : ป้องกันตัวเครื่องในน้ำจึดลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP69 : ป้องกันตัวเครื่องในน้ำแรงดันสูง ที่อุณหภูมิสูงสุด 80 องศาเซลเซียส
- มาตรฐานความทนทานเกรดกองทัพ MIL-STD-810H : ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น อุณหภูมิสูง/ต่ำมาก, ทราย, ความชื้น หรือแรงสั่นสะเทือน เป็นต้น
OPPO F31 นั้น มาพร้อมความบางของตัวเครื่อง 8.0 มม. และหนัก 185 กรัม ในขณะที่ F31 Pro และ F31 Pro+ มาพร้อมความบางและมีน้ำหนัก 7.96 มม./190 กรัม และ 7.7 มม./195 กรัม ตามลำดับ
ในส่วนของหน้าจอนั้น OPPO F31 และ F31 Pro ได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ OLED ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, รองรับรีเฟรชเรต 120 Hz (รีเฟรชภาพ 120 เฟรมต่อวินาที) และความสว่างสูงสุด 1,400 Nit ในขณะที่ F31 Pro+ นั้น มีความพรีเมียมมากกว่าด้วยการติดตั้งแผงหน้าจอ OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, รีเฟรชเรต 120 Hz และมีความสว่างสูงสุด 1,600 Nit
OPPO F31 ทั้ง 3 รุ่น ทำงานบนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของระบบ Android 15 และประมวลผลด้วยชิปเซตระดับกลางที่แตกต่างกัน ดังนี้
- OPPO F31 : MediaTek Dimensity 6300 (6 นาโนเมตร, 2.40 GHz)
- OPPO F31 Pro : MediaTek Dimensity 7300 Energy (4 นาโนเมตร, 2.50 GHz)
- OPPO F31 Pro+ : Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 (4 นาโนเมตร, 2.63 GHz)
สมาร์ตโฟนทั้ง 3 รุ่น ยังได้รับการจ่ายพลังงานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุสูงถึง 7,000 mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไฟเร็ว 80 W, ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้แผงหน้าจอ, ลำโพงสเตอริโอ รองรับระบบมาตรฐานเสียง Hi-Res, รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 และ Wi-Fi 6, กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล แต่ OPPO F31 มาพร้อมกล้องเซลฟี ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ในขณะที่ F31 Pro และ F31 Pro+ มาพร้อมกล้องเซลฟี ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
อีกไฮไลต์สำคัญของสมาร์ตโฟนทั้ง 3 รุ่น คือ รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ใต้น้ำ, ชาร์จไฟแบบบายพาสในระหว่างเล่นเกมอย่างเต็มศักยภาพ และเครื่องมือพลัง AI เช่น AI ช่วยถอดเสียงเป็นข้อความ, AI Assistant ช่วยจดบันทึกสำคัญ หรือ AI ช่วยสรุปเนื้อหาสำคัญ เป็นต้น
OPPO จะเริ่มจำหน่าย F31 Pro และ F31 Pro+ ในวันที่ 19 กันยายน 2025 และ F31 ในวันที่ 27 กันยายน 2025 ผ่านเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังอย่าง Amazon ประเทศอินเดีย, Flipkart และสโตร์ออนไลน์ของแบรนด์ พร้อมราคาดังนี้
OPPO F31
- สี Midnight Blue, Cloud Green และ Bloom Red
- 8 GB + 128 GB : 22,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 8,300 บาท
- 8 GB + 256 GB : 24,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 9,000 บาท
OPPO F31 Pro
- สี Desert Gold และ Space Gray
- 8 GB + 128 GB : 26,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 9,800 บาท
- 8 GB + 256 GB : 28,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 10,500 บาท
- 8 GB + 256 GB : 30,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 11,200 บาท
OPPO F31 Pro+
- สี Gemstone Blue, Himalayan White และ Festive Pink
- 8 GB + 256 GB : 32,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 11,900 บาท
- 8 GB + 256 GB : 44,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 16,300 บาท