Huawei ได้เปิดตัวสมาร์ตวอตช์ระดับพรีเมียมรุ่นล่าสุด นั่นคือ Watch Ultimate 2 ซึ่งพัฒนาต่อเนื่องจาก Watch Ultimate เมื่อปี 2024 พร้อมอัปเกรดสเปกสำคัญ, ดีไซน์ใกล้เคียงรุ่นก่อนแต่อัปเกรดกรอบด้วยวัสดุโลหะเหลวผสมเซอร์โคเนียม ที่มีความทนทานสูง และกระจกแซฟไฟร์

Huawei Watch Ultimate 2 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED เทคโนโลยี LTPO2 (Low-Temperature Polycrystalline Oxide รุ่นที่ 2 ปรับรีเฟรชเรตแบบไดนามิกได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น) ซึ่งมีความสว่างสูงสุด 3,500 Nit, ขอบจอบางลง 18%, มาตรฐานกันน้ำ 20ATM (EN13319, ISO 22810:2010) ซึ่งช่วยให้สวมขณะดำน้ำได้ลึกสุด 150 เมตร (อัปเกรดขึ้น 50 เมตร จาก Watch Ultimate รุ่นแรก)

Huawei Watch Ultimate 2

Huawei Watch Ultimate 2 เป็นสมาร์ตวอตช์รุ่นแรกที่รองรับการสื่อสารใต้น้ำด้วยระบบโซนาร์ ซึ่งทำให้สมาร์ตวอตช์ระดับพรีเมียมนี้สามารถส่งข้อความหรืออีโมติคอนที่ตั้งค่าไว้ให้แก่สมาร์ตวอตช์เรือนอื่น ๆ ในรัศมี 30 เมตร รวมถึงฟีเจอร์ส่งสัญญาณ SOS ใต้น้ำ ซึ่งช่วยแจ้งเตือนสมาร์ตวอตช์เรือนอื่น ๆ ในระยะ 60 เมตรได้

Huawei Watch Ultimate 2

Huawei ยังได้นำระบบเสารับสัญญาณแบบแยกส่วนมาใช้กับ Watch Ultimate 2 เพื่อให้เชื่อมต่อในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น และมาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้สูงสุด 4.5 วัน (ใช้งานตามปกติ) และ 11 วัน (เปิดโหมดประหยัดพลังงาน)

Huawei Watch Ultimate 2

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบสุขภาพ TruSense และเซนเซอร์ X-Tap เพื่อใช้วัดค่าสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ครอบคลุมการตรวจสุขภาพ 11 แบบ รวมถึง ECG (Electrocardiogram: การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ), ขับเคลื่อนการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 5.1 และรองรับ eSIM

รวมถึงระบุตำแหน่งอย่างแม่นยำด้วยระบบดาวเทียม GPS แบบ 2 ย่านความถี่, ส่งข้อความผ่านระบบดาวเทียม Beidu สำหรับผู้ใช้ในประเทศจีน และโทรออก/เล่นเพลง บนสมาร์ตวอตช์ได้โดยตรง

Huawei Watch Ultimate 2

Huawei Watch Ultimate 2 มีด้วยกัน 2 เวอร์ชัน ได้แก่ Compass Black และ Ocean Blue พร้อมราคา 899 ยูโร หรือประมาณ 33,600 บาท และ 999 ยูโร หรือประมาณ 37,400 บาท ตามลำดับ