Qualcomm ได้เปิดตัวชิปเซตเรือธงรุ่นถัดไปของแบรนด์ นั่นคือ Snapdragon 8 Elite Gen 5 อย่างเป็นทางการ ภายในงาน Snapdragon Summit ที่เมาวี ฮาวาย โดยเป็นรุ่นพัฒนาต่อเนื่องจาก Snapdragon 8 Elite เมื่อปี 2024 และทาง Qualcomm ยกย่องว่าเป็น “ชิปเซตสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีความเร็วสูงสุดในโลก”

Snapdragon 8 Elite Gen 5 นั้น มาพร้อมหมายเลขรุ่น SM8850-AC ซึ่งได้รับการผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตร และติดตั้งแกนซีพียู (CPU: Central Processing Unit) Oryon รุ่นที่ 3 จำนวน 8 คอร์ ที่ได้รับการปรุงประสิทธิภาพซีพียูให้สูงขึ้น 20% และประหยัดพลังงานได้ดีขึ้น 35% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

ซีพียูดังกล่าว ได้รับการจัดเรียงในรูปแบบ 2 + 6 ดังนี้

  • แกนระดับ Prime จำนวน 2 คอร์ ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 4.60 GHz
  • แกนระดับ Performance จำนว 6 คอร์ ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.62 GHz
Snapdragon 8 Elite Gen 5

ด้านชิปประมวลผลกราฟิก (GPU: Graphics Processing Unit) นั้น ยังคงใช้ศักยภาพจากชิปในตระกูล Adreno ที่ได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพให้สูงขึ้น 23%, ลดการใช้พลังงานลง 20%, เรนเดอร์กราฟิกแสงด้วยเทคโนโลยี Ray Tracing ได้ดีขึ้น 25% และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น 16% ซึ่ง Qualcomm อ้างว่า ช่วยให้เล่นเกมได้นานขึ้นอีก 1 ชั่วโมง 48 นาที

Snapdragon 8 Elite Gen 5 ยังรองรับ Unreal Engine 5 ซึ่งช่วยให้เรนเดอร์ภาพในระดับเดียวกับเครื่องโซลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น, เทคโนโลยี Tile Memory Heap ช่วยให้ใช้งานหน่วยความจำและแบนด์วิตท์ได้อย่างมีประสิทธภาพสูงขึ้น และเทคโนโลยี Mesh Shading ช่วยให้นักพัฒนาสามารถแสดงผลวัตถุ 3 มิติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งชิปประมวลแบบโครงข่ายประสาท (NPU: Nural Processing Unit) Hexagon ที่ช่วยให้ใช้ AI ประมวลได้เร็วขึ้น 37% และเทคโนโลยี Qualcomm Sensing Hub สำหรับเปิดใช้งานผู้ช่วยดิจิทัลขุมพลัง Agentic AI ซึ่งสามารถปรับแต่งการใช้เหมาะสมกับผู้ใช้และฮาร์ดแวร์ได้อย่างลงตัว

  • Agentic AI เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถตัดสินใจเชิงรุก และดำเนินการอย่างอิสระโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้ใช้ในทุกขั้นตอน
Snapdragon 8 Elite Gen 5

ด้านการถ่ายภาพนั้น ได้รับการติดตั้งชิปประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP: Image Signal Processor) Qualcomm Spectra AI ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี AI-ISPs (ผสานการทำงานกับ AI) ระดับ 20 บิต จำนวน 3 ชุด และรองรับมาตรฐานการเข้ารหัสไฟล์วิดีโอ APV (Advanced Professional Video) ระดับมืออาชีพ เป็นรุ่นแรก

Qualcomm ได้กล่าวว่า Snapdragon 8 Elite Gen 5 จะเป็นขุมพลังให้แก่สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นถัดไปของแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึง vivo, iQOO, OPPO, realme, OnePlus, Honor, ZTE, nubia, RedMagic, Xiaomi, ASUS, Sony และ Samsung