อิเกีย (IKEA) สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวแคมเปญใหม่ที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การขายเฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นการช่วยผู้บริโภครับมือกับปัญหาใหญ่ของยุคสมัย อย่าง ‘Social Disruption’ และภาวะการเสพติดหน้าจอ แบรนด์ได้ออกสินค้าส่งเสริมการขายสุดฉลาดอย่าง ‘เตียงจิ๋ว’ สำหรับสมาร์ตโฟนที่มีเทคโนโลยี NFC ในตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานลดพฤติกรรมการเล่นมือถือในช่วงเวลาก่อนและระหว่างนอนหลับ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาสุขภาพจิตและการนอนในยุคดิจิทัล
NFC คืออะไร ?
‘NFC’ หรือ ‘Near Field Communcation’ คือเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะใกล้ที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเมื่ออยู่ระยะใกล้มาก (โดยทั่วไปคือไม่เกิน 4 เซนติเมตร หรือแค่แตะกัน) ง่าย ๆ คือการที่อุปกรณ์ 2 ชิ้นสามารถสื่อสารกันได้แค่เอามาอยู่ใกล้กัน กรณีของ IKEA คือการแตะเพื่อเริ่มบันทึกกิจกรรมการนอนในแอปพลิเคชันกับเตียงจิ๋ว
Stop scrolling. Start earning. : ลดการติดจอก่อนนอนเพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่
การที่ IKEA ออกสินค้าอย่าง ‘Phone Sleep Collection’ สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทใหม่ของแบรนด์ในยุคที่ผู้บริโภคต้องการความสมดุลทางดิจิทัล (Digital Wellness) แบรนด์เข้าใจว่าผู้คนในยุคนี้ประสบปัญหาการไถจอ (Scrolling) ก่อนนอน จนร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดังนั้น แทนที่จะบอกให้ผู้บริโภควางมือถือเฉย ๆ IKEA กลับใช้หลักการ Gamification หรือการให้รางวัล เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างมีแรงจูงใจ
‘Phone Sleep Collection’ นี้ถูกจำลองมาจากเตียงจริงของ IKEA และทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน IKEA เพื่อติดตามและบันทึกช่วงเวลาการนอนหลับที่ไม่ถูกรบกวนจากการไถหน้าจอมือถือ โดยมีกฎกติกาคือ ผู้ใช้งานที่สามารถทำสถิตินอนหลับ 7 ชั่วโมง แบบไม่แตะมือถือติดต่อกัน 7 คืน จะได้รับสิทธิ์แลกรับเวาเชอร์ส่วนลดจาก IKEA !
วิธีการทำงานของเตียงจิ๋ว NFC
วิธีการใช้งานนั้นออกแบบมาเพื่อความง่ายดายและไร้รอยต่อ เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกว่าการทำ Digital Detox ก่อนนอนไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก
- ดาวน์โหลดแอปฯ IKEA UAE
- วางโทรศัพท์บนเตียงจิ๋ว แล้วแตะที่แจ้งเตือนเพื่อเปิดแอปฯ (สำหรับ iOS อาจต้องอนุญาตให้ติดตาม Motion & Fitness)
- ระบบจะเริ่มติดตามเวลานอนหลับของคุณแบบเบื้องหลัง (ไม่มีตัวนับปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แต่เป็นการติดตามแบบเงียบ ๆ)
- เมื่อทำสำเร็จครบ 7 คืน ที่นอนหลับได้ 7 ชั่วโมงแบบไร้การไถจอ ก็รับเวาเชอร์ไปเลย !
แม้ว่าเตียงจิ๋วสุดน่ารักนี้จะเป็นเพียงสินค้าส่งเสริมการขายที่จำกัดเฉพาะในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยมอบให้ลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายตามกำหนดและซื้อสินค้าในกลุ่ม ‘Complete Sleep Collection’ เท่านั้น แต่แคมเปญนี้ได้สร้างความตระหนักและได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในระดับโลก นี่เป็นสัญญาณที่ดีว่า IKEA อาจพิจารณาขยายโปรโมชัน ‘เตียงมือถือ’ และรูปแบบการตลาดแบบ Gamification นี้ไปยังประเทศอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้คนทั่วโลกสามารถต่อสู้กับ Social Disruption และยกระดับคุณภาพการนอนหลับของตนเองได้
เป็นไปได้ว่าในอนาคต นอกจากเทรนด์ของแบรนด์ที่เน้นความยั่งยืน เราอาจจะได้เห็นแบรนด์ที่เน้นการจัดการกับ Social Disruption มากขึ้น การที่ IKEA ออกแคมเปญแบบนี้มาในฐานะแบรนด์ดังระดับโลก เราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากแบรนด์อื่นได้มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้