The Bell สื่อจากประเทศเกาหลีใต้ ได้รายงานว่า iPhone 18 รุ่นเริ่มต้น จะมาพร้อมแรมที่มีความจุสูงขึ้นอีก 50% เมื่อเทียบกับ iPhone 17 รุ่นเริ่มต้นในปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่า ความจุของแรมจะอัปเกรดจาก 8 GB เป็น 12 GB ในขณะที่ iPhone 18 Pro ก็จะได้รับการอัปเกรดความจุของแรมให้สูงขึ้นจาก 12 GB ใน iPhone 17 Pro

การอัปเกรดนี้ ดูเหมือนเป็นผลสืบเนื่องจากการที่ Apple พยายามผลักดันการใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence (คาดว่าจะเปิดให้ใช้อย่างเต็มศักยภาพใน iPhone 18 Series) ซึ่งเน้นหนักด้านการประมวลผลด้วยฮาร์ดแวร์ภายในตัวเครื่องโดยตรง เพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เพื่อให้ประมวลผลด้วย AI ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และรองรับการประมวลผลภาระงานหลายด้านพร้อมกันได้อย่างลื่นไหลยิ่งขึ้น

ทั้งนี้มีรายงานว่า Samsung บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากประเทศเกาหลีใต้ จะเป็นผู้ผลิตโมดูลแรม LPDDR5X รุ่นใหม่ให้กับ Apple เป็นหลัก ในขณะที่ SK Hynix (จากเกาหลีใต้) และ Micron (จากสหรัฐฯ) จะรองรับการผลิตแรมส่วนอื่น ๆ เพื่อให้เพียงต่อความต้องการทั้งหมดของ Apple ซึ่งแรม LPDDR5X รุ่นใหม่ดังกล่าว จะมีความเร็วสูงขึ้น และประหยัดพลังงานได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับแรม LPDDR5 ที่ใช้ใน iPhone 17 รุ่นมาตรฐาน

iPhone 17
iPhone 17

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Apple จะแบ่งการเปิดตัวเปิดตัว iPhone 18 Series ออกเป็น 2 เฟส โดยจะเปิดตัว iPhone 18 Pro, iPhone 18 Pro Max, iPhone Air 2 และ iPhone พับจอได้รุ่นแรกของแบรนด์ ในเดือนกันยายน 2026 ซึ่ง iPhone เหล่านี้จะใช้ศักยภาพจากชิปเซต Apple A20 ตามด้วยการเปิดตัว iPhone 18 รุ่นเริ่มต้น และ iPhone 18e ในต้นปี 2027

ด้านชิปเซต Apple A20 นั้น จะได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตร ของ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า iPhone 18 อาจมีราคาสูงขึ้นประมาณ 50 – 100 เหรียญ (ประมาณ 1,600 – 3,300 บาท) จาก iPhone 17 ในปัจจุบัน

ในขณะเดียวกัน สาวก Apple หลายคนได้โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X แสดงความคิดเห็นว่า Apple ควรเลือกใช้แรม LPDDR5X มานานแล้ว เพื่อสามาถแข่งขันกับสมาร์ตโฟนเรือธงระบบ Android อย่าง Samsung Galaxy S26 และ vivo X300

iPhone 17
iPhone 17