nubia แบรนด์ย่อยของ ZTE จากประเทศจีน ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนดีไซน์ทันสมัยในราคาประหยัดรุ่นล่าสุด นั่นคือ nubia V80 Design ที่เคยมีข่าวลือหลุดออกมาในบางประเทศภายใต้ชื่อ ZTE Blade V80 Vita
nubia V80 Design มาพร้อมแผงหน้าจอ LCD ขนาด 6.75 นิ้ว ความละเอียด 900 x 1,940 พิกเซล ซึ่งมีความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลที่ 317 PPI, รองรับรีเฟรชเรตสูงถึง 120 Hz (แสดงการเคลื่อนไหวของภาพได้นุ่มนวลถึง 120 เฟรมต่อวินาที), ความสว่างสูงสุด 1,000 Nits และเจาะรูสำหรับติดตั้งกล้องเซลฟี ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แต่ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องแทน

nubia V80 Design ได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ ความจุ 5,000 mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไฟ 22.5 W และแบ่งปันการจ่ายพลังงานให้อุปกรณอื่นที่ 10 W ภายใต้ตัวเครื่องที่บาง 7.7 มม., หนัก 191 กรัม และมาพร้อมมาตรฐานก้นน้ำ IP64 ซึ่งช่วยป้องกันตัวเครื่องจากละอองน้ำรอบทิศทาง
ด้านหลังตัวเครื่องได้รับการติดตั้งกล้องหลัก เรียกว่า ‘AI Camera’ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และเซนเซอร์วัดระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ด้านการประมวลผลนั้น ได้ใช้ศักยภาพจากชิปเซต Unisoc T7280 ที่ได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 12 นาโนเมตร และติดตั้งแกนซีพียู (CPU : Central Processing Unit) จำนวน 8 คอร์ ดังนี้
- Cortex-A75 จำนวน 2 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz สำหรับประมวลผลงานทั่วไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ
- Cortex-A55 จำนวน 6 คอร์ ความเร็วสูงสุด 1.8 GHz สำหรับประมวลผลงานเล็กน้อยแบบประหยัดพลังงาน
ชิปเซตดังกล่าวยังมาพร้อมชิปกราฟิก (GPU : Graphics Processing Unit) Mali-G57 MP1, รองรับการเชื่อมต่อ 4G และทำงานร่วมกับแรม ความจุสูงสุด 8 GB ที่รองรับแรมเสมือน (Virtual RAM) ได้สูงสุด 12 GB ในขณะที่สตอเรจมีความจุ 256 GB

nubia V80 Design ยังมาพร้อมระบบสื่อสารแบบไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายหลัก เรียกว่า nubia Linkfree ซึ่งสามารถโทรและส่งข้อความผ่าน Bluetooth ในกรณีอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งสามารถส่งได้ไกลหลายร้อยเมตร (ขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ)
สมาร์ตโฟนดังกล่าวทำงานบนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android 16 ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ AI มากมาย เช่น แปลภาษาเรียลไทม์, ตรวจจับการฉ้อโกง, ใช้ AI เขียนและตอบข้อความ, ตกแต่งภาพ, แปลงฟอร์แมตภาพ หรือสร้างวอลล์เพเปอร์ เป็นต้น

nubia V80 Design มาพร้อมตัวเครื่องสี Midnight Black, Pale Amber, Celadon Cyan และ Peach Fuzz โดยมีราคาดังนี้
- 8 GB + 256 GB : 570 ริงกิต หรือประมาณ 4,500 บาท (ประเทศมาเลเซีย)
- 4 GB + 256 GB : 5,800 เปโซ หรือประมาณ 3,200 บาท (ประเทศฟิลิปปินส์)
- 8 GB + 256 GB : 6,500 เปโซ หรือประมาณ 3,600 บาท (ประเทศฟิลิปปินส์)
