เปิดตัว Infinix Note 50 Series มือถือที่มาพร้อมการใช้งาน AI สุดล้ำ ตอบโจทย์ทั้งสายเกมเมอร์และสายคอนเทนต์ ตอบสนองการใช้งานอย่างราบรื่น โดยเปิดตัวมาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน และ 3 สี Titanium Grey, Enchanted Purple และ Racing Edition

Note 50 Pro+ 5G รุ่นเรือธง

Note 50 Pro+ 5G มือถือระดับเรือธงมาในราคา 13,999 บาท ตัวดีไซน์แข็งแกร่งใช้วัสดุ ShockAbsorb ในการกันกระแทก IP64 กันฝุ่น 100% ตัววัสดุเครื่องกันรอยนิ้วมือ พร้อมฟีเจอร์สายสุขภาพอย่าง Bio active Halo Lighting ใช้วัดจังหวะการเต้นของหัวใจ และ​ blood oxygen, นอกจากนี้ตัวเอฟเฟกต์แสงนี้จะนำมาใช้แสดงเมื่อชาร์จ และถ่ายภาพ อีกทั้งยังมาพร้อมโครงสร้างเครือข่าย 5G แบบเปิดโล่ง เสริมประสิทธิภาพความเร็วระดับ 5.5 สูงกว่า 5G ทั่วไป +200% ค้นหาตำแหน่งแม่นยำขึ้น +25% และความเร็ว Wi-Fi ดีขึ้น +30%

ในส่วนของสเปก Note 50 Pro+ 5G รองรับทุกรูปแบบการใช้งาน แต่โดนเด่นที่สุดสำหรับสายเกมเมอร์ ให้แบตเตอรี่มา 5,200 mAh โดยครั้งนี้เปลี่ยนมาใช้ Silicon-Carbon และระบบแบตเตอรี่ Cheetah Ultra มาพร้อมชิป MediaTek Dimensity 8350 ชิปประมวลผลที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ตโฟน ทั้งยังเคลมว่าด้วย AnTuTu Score รุ่นนี้เหนือ Snapdragon ถึง 2 เท่า ! สามารถรองรับการเล่นเกมด้วยอัตราเฟรมเรตสูง 122 FPS ทำให้การเล่นเกมลื่นไหล เพื่อจัดการความร้อนขณะใช้งานหนัก รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วด้วย FastCharge3.0 100 W ชาร์จจาก 1% ถึง 100% ในระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น และยังรองรับ MagCharge ไร้สาย 50 W และลำโพงคู่ที่ปรับแต่งโดย JBL

ฟีเจอร์เด่นรอบนี้คือการผสมผสาน AI เข้ามาให้การใช้งานมีความง่ายมากขึ้นทั้ง 3 รุ่น เป็นลักษณะของ RAW Algorithm สำหรับกล้องจะเน้น Ultra-Wide Camera กล้อง Periscope ซูมไกล 100x พร้อมกล้อง SONY IMX896 Night Master ถ่ายกลางคืนได้ภาพชัดไม่แตก มาพร้อมฟังก์ชันแตะสองครั้งพร้อมเปิดกล้อง ยก ถ่ายได้ทันที !

Note 50 Pro รุ่นรองเรือธง แต่ยังคงสเปกแน่น

Note 50 Pro เปิดมาในราคา 8,499 บาท สำหรับรุ่นรองเรือธง คุณภาพยังคงแน่นและตอบโจทย์การใช้งานอย่างลื่นไหล รุ่นนี้มาพร้อมประสิทธิภาพสูงด้วยชิป MediaTek Helio G100 Ultimate ที่มอบการประมวลผลรวดเร็วและลื่นไหล รองรับหน่วยความจำสองตัวเลือกคือ 256 GB+24 GB (ROM/RAM) เหมาะสำหรับการใช้งานหนักและเก็บข้อมูลปริมาณมาก แบตเตอรี่ความจุ 5,200 mAh ใช้เทคโนโลยี Silicon-Carbon ที่ทนทาน รองรับการชาร์จเร็ว 90 W FastCharge 3.0 และยังรองรับชาร์จไร้สาย 30 W MagCharge แบบ Wide-Band สำหรับสายเกมมิง รองรับอัตราเฟรมเรตสูงสุด 90 FPS พร้อมระบบระบายความร้อน VC Cooling ที่ช่วยลดอุณหภูมิขณะเล่นเกมหนัก ๆ ด้านเสียงมาพร้อมลำโพง JBL Dual Stereo ให้คุณภาพเสียงคมชัด กล้องใช้เทคโนโลยี Cheetah Ultra X2 ถ่ายภาพได้คมชัดและเก็บรายละเอียดดีเยี่ยม ปิดท้ายด้วยการรับประกันยาวนานถึง 6 ปี มอบความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว

Note 50 S รุ่นน้องเล็ก

Note 50 S เปิดมาในราคา 7,999 บาท มาพร้อมกับขุมพลังจากชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7300 Ultimate 5G และขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Cheetah Ultra ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่า โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 5,200 mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 6 ปี นอกจากนี้ ยังมีหน่วยความจำภายใน 256 GB พร้อม RAM 16 GB ที่สามารถเพิ่มได้สูงสุดอีก 8 GB+8 GB เพื่อการทำงานที่ราบรื่น และแสดงผลได้อย่างไหลลื่นด้วยอัตราเฟรมสูงสุด 90 FPS นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังจะได้รับประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมจากลำโพงที่ได้รับการปรับจูนโดย JBL และสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45 W SuperCharge (FastCharge 3.0)